Skip to content

[รีวิว] The Killer : นักฆ่า (2023)

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

The Killer (ชื่อไทยใน Netflix : นักฆ่า) เป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเดวิด ฟินเชอร์​ ( David Fincher) ที่ฝากผลงานในตำนานอย่าง Se7en, Fight Club, Zodiac และ Gone Girl โดยเรื่องนี้นำมาจากกราฟิกโนเวล (Graphic Novel) จากฝรั่งเศสของ Alexis Nolent และ Luc Jacamon พอมาทำเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์ตัวเอกของเรื่องนี้นำแสดงโดย “ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์” (Michael Fassbender) กับบทบาทนักฆ่ามืออาชีพสุดเนิร์ดข้อมูลของตัวเลขและปรัชญา ที่มาพบว่าตัวเองมาตกอยู่ในเกมแมวจับหนูที่สุดอันตราย มีนักแสดงสมทบอย่าง ทิลดา สวินตัน, ชาร์ลส์ พาร์เนล และอาร์ลิส ฮาวเวิร์ด มาร่วมแสดงมือสังหาร ที่มุ่งมั่นจะกำจัดเขาไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

จุดเด่น

  • การกำกับของเดวิด ฟินเชอร์ ยังคงเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ ถ่ายทอดอารมณ์และบรรยากาศได้อย่างยอดเยี่ยม
  • การแสดงของไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ โดดเด่นและทรงพลัง ถ่ายทอดตัวละครนักฆ่าได้อย่างซับซ้อนและน่าติดตาม
  • ดนตรีประกอบของเทรนต์ เรซเนอร์ และแอตติคัส รอสส์ ชวนหลอนหลอกและสะกดจิตได้ดี

ข้อสังเกต

  • บทภาพยนตร์บางช่วงอาจตรงตามต้นฉบับมากเกินไป อาจทำให้ผู้ชมที่ไม่ได้อ่านกราฟิกโนเวลรู้สึกไม่คุ้นเคย
  • การดำเนินเรื่องในช่วงกลางอาจช้าลงและสูญเสียโมเมนตัมไปบ้าง
  • ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจไม่ใช่ผลงานที่ดีที่สุดของเดวิด ฟินเชอร์ แต่ก็ยังคุ้มค่าแก่การชม

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานความเป็นนัวร์และความเนิร์ดได้อย่างลงตัว และยังผสมความระทึกขวัญในแบบสไตล์ของเดวิด ฟินเชอร์ ซึ่งนำเสนอความเชี่ยวชาญในการเล่าเรื่องด้วยภาพและอารมณ์บรรยากาศด้วยงานภาพของโดยอีริค เมสเซอร์ชมิดต์ ซึ่งเคยร่วมงานกับฟินเชอร์ในเรื่อง Mank โดยสร้างความแตกต่างระหว่างฉากที่ทันสมัยและหรูหรา กับสถานที่ในการปฏิบัติงานและในการหลบหนีของเขา ดนตรีของเทรนต์ เรซเนอร์และแอตติคัส รอสส์ซึ่งร่วมงานกับฟินเชอร์ในหลายๆ โปรเจ็กต์ ชวนให้หลอกหลอนและสะกดจิตได้ดี ช่วยเพิ่มความตึงเครียดและอารมณ์ของฉากต่างๆ ผสมด้วยการตัดต่อโดย Kirk Baxter ซึ่งเป็นผู้ร่วมงานบ่อยครั้งกับฟินเชอร์ สร้างความเฉียบคมและไร้รอยต่อ ทำให้จังหวะของภาพยนตร์กระชับและน่าดึงดูด

พอมาสมบทบกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดง โดยเฉพาะไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าหลายๆ คนนั้นชอบงานการแสดงของเขากันอยู่แล้ว มาคราวนี้นำเสนอภาพมือสังหารที่ดูซับซ้อนได้เหมาะสมยิ่ง สามารถถ่ายทอดความเป็นมืออาชีพของมือลอบสังหารที่เย็นชาและทำงานได้แบบจบได้ด้วยตนเองได้ โดยสภาพพื้นที่การทำงานที่ดูสงบนิ่งและเรียบนิ่งนั้น มันช่างชวนให้นึกถึงความแตกต่างระหว่างโลกภายนอกที่วุ่นวายกับโลกภายในที่สงบนิ่ง ในบางมุมทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นอกเห็นใจตัวละครของเขา ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นนักฆ่า และแม้ว่าเขาจะกระทำการที่โหดร้ายและไร้ความปรานีก็ตาม แต่เมื่อเจอนักแสดงสมทบที่แม้จะไม่ได้บทแอคชั่นอะไรมากมายก็ตาม แต่ก็สามารถแสดงให้เห็นแรงจูงใจของพวกเขาผ่านบทสนทนาและสีหน้าหน้าออกมาได้อย่างดี ส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้าที่น่าตื่นเต้นและคาดเดาได้ยากว่าหนังจะจบยังไง

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้เพอร์เฟคขนาดนั้น บทภาพยนตร์ของแอนดรูว์ เควิน วอล์คเกอร์ ผู้เขียนบทเรื่อง Se7en ในตำนานนั้น กลับกันในเรื่องนี้บางครั้งก็แสดงตรงตามต้นฉบับมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมบางคนที่ไม่คุ้นเคยกับกราฟฟิคโนเวลรู้สึกประหลาดๆ หน่อยก็ตาม และยังประสบปัญหาเรื่องการเว้นจังหวะ โดยเฉพาะในช่วงกลางเรื่อง ที่อยู่ดีๆ การดำเนินเรื่องก็ช้าลงและสูญเสียโมเมนตัมไปบางส่วน การขาดความลุ่มลึกและคำบรรยายบางส่วนในแบบภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ ของฟินเชอร์เคยมีมา เช่น การวิจารณ์ทางสังคมของ Fight Club, ความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ของ Zodiac, หรือความเข้าใจเชิงจิตวิทยาของ Gone Girl เป็นต้น ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นหนังแอ็คชั่นระทึกขวัญที่ตรงไปตรงมามากกว่า ซึ่งอาจไม่ตรงกับรสนิยมของแฟน ๆ ฟินเชอร์บางกลุ่ม แต่แน่ใจอีกอย่างนึงว่ามีไดอะล็อกที่น่าจดจำได้อย่างนึงคือ

Stick to your plan. Anticipate, don’t improvise. Trust no one. Never yield an advantage. Fight only the battle you’re paid to fight.

ทำตามแผนไว้ เชื่อมั่นในแผน อย่าด้นสด อย่าเชื่อใจใคร ต้องชิงความได้เปรียบ สู้เฉพาะในศึกที่จ้างมาให้สู้เท่านั้น

โดยรวมแล้ว The Killer (นักฆ่า) เป็นภาพยนตร์ที่ยังพอมีจุดแข็งและพอลุ้นระทึกไปได้บ้าง ซึ่งแสดงให้เห็นทักษะและวิสัยทัศน์ของฟินเชอร์ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ แม้จะไม่ใช่ผลงานที่ดีที่สุดหรือเป็นผลงานต้นฉบับที่สุดของเขา แต่ก็ยังเป็นส่วนเสริมที่คุ้มค่าสำหรับผลงานภาพยนตร์ที่น่าประทับใจของเขาเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่งเรื่องอยู่ดี และแม้ส่วนตัวจะรู้สึกยัดซาวด์แทรคของ The Smiths มาแบบจัดเต็ม แต่ก็แอบเศร้านิดๆ ที่ต้องมาฟังเพลงของ The Smiths ในช่วงที่รอดูคอนเสิร์ต Morrisey ในไทยแต่ก็ดันมายกเลิกก่อนเริ่มไม่กี่วันซะงั้น

The Killer (นักฆ่า) เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นระทึกขวัญที่ผสมผสานความเป็นนัวร์และความเนิร์ดได้อย่างลงตัว ผลงานกำกับชั้นเยี่ยมของเดวิด ฟินเชอร์ ที่ต้องห้ามพลาด

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *