ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ นักเขียนบทมากฝีมือที่เคยฝากฝีไม้ลายมือไว้ใน บอดี้..ศพ#19, สี่แพร่ง, โฮมสเตย์ และ 13 เกมสยอง คราวนี้เขาหยิบการ์ตูนสั้นของตัวเองมาขยายเป็นหนังยาวเต็มรูปแบบ ภายใต้การสร้างของ BrandThink Cinema ซึ่งตั้งใจทำให้แตกต่างจากหนังผีไทยกระแสหลัก ด้วยการผสมความสยองขวัญเข้ากับแฟนตาซีและการผจญภัยในป่าลึก
ชื่อเรื่อง “ฮาลาบาลา” อ้างอิงถึงผืนป่าฮาลาบาลาจริงในเขตชายแดนยะลา–นราธิวาส ป่าดงดิบที่แฝงตำนานลี้ลับเกี่ยวกับเผ่ากินคนและไสยดำ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ “สารวัตรแดน” หรือ “แดนร้อยศพ” (เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) นายตำรวจผู้มีอดีตอันโหดเหี้ยม ต้องออกตามล่าหัวหน้าแก๊งวิปริต “ตั๊บ ตาไฟ” (ปู แบล็คเฮด) พร้อมภรรยาท้องแก่ “วิ” (ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์) การเดินทางลึกเข้าสู่ป่าเปลี่ยนจากภารกิจล่าคนร้ายไปสู่การเอาตัวรอดจากปีศาจ ความเชื่อโบราณ และเงามืดในจิตใจตัวเอง
ตัวอย่างหนังที่รันบน Netflix ทำให้คาดหวังว่าจะได้สัมผัส “ธี่หยด 2” ที่ผสมความหลอนและแฟนตาซีอย่างกลมกล่อม แต่เมื่อได้ดูจริงกลับพบว่ามันคือการผสมโทนหนังหลายแบบ ทั้งกลิ่นอายทริลเลอร์เกรดบี หนังนอกกระแส ละครไทย และแฟนตาซีสยองขวัญที่บางครั้งดูหลุดไปหลุดมา งานภาพโดยรวมจัดว่าสวยและมีลูกเล่นมากพอสมควร โดยเฉพาะการใช้เลนส์ไวด์ถ่ายจ่อหน้าในหลายซีน ซึ่งดึงให้ผู้ชมรู้สึกถูกดันเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของตัวละครจนแทบอึดอัด เป็นวิธีถ่ายทอดความบิดเบี้ยวทางอารมณ์ที่ได้ผล แม้ในบางจังหวะจะทำให้ภาพบิดเบี้ยวเกินจำเป็นก็ตาม ขณะเดียวกัน CG บางส่วนยังดูหยาบและให้ความรู้สึกเกรดบีอยู่บ้าง
จุดที่น่าสนใจคือการเล่าเรื่องที่ใช้ความคลุมเครือในจิตใจผสมพลังมืดและปีศาจในป่าลึกที่เป็นตำนานเล่าขานกันมา แม้โครงเรื่องหลักจะค่อนข้างเส้นตรงและไม่ได้ซับซ้อน แต่การเล่ากลับทำให้เหมือนหลงป่า ทั้งในเชิงเนื้อเรื่องและสัญลักษณ์ ความสับสนนี้ช่วยเพิ่มบรรยากาศหลอนในบางช่วง ทว่าก็ทำให้หลายตอนขาดจังหวะและความชัดเจน โดยเฉพาะตอนท้ายที่เข้าสู่โหมดเอาตัวรอดของ “วิ” ในสูตรหนังสยองแบบฝรั่ง ก่อนจะปิดด้วยหักมุมว่าเธอถูกหมวดแดนในร่างปีศาจกลืนกินพร้อมลูกในท้อง
แม้จะมีช่วงที่ชวนลุ้นและน่าติดตาม แต่ก็มีไม่น้อยที่ดูยืดเยื้อ ปูเรื่องไว้แล้วไม่ใช้ต่อ หรือใส่เหตุการณ์ที่ไร้เหตุผลจนคนดูหลุดจากบรรยากาศ ตัวร้ายอย่าง “ตั๊บ ตาไฟ” ซึ่งถูกโปรโมตมาก กลับขาดมิติและไม่โดดเด่นอย่างที่ควร ข้อดีคือการแสดงของเต๋อ-ฉันทวิชช์ที่สลัดภาพจำจากคอมเมดี้ได้อย่างน่าประทับใจ และณิชา-ณัฏฐณิชาที่ถ่ายทอดความเปราะบางและแรงฮึดของตัวละครหญิงตั้งครรภ์ได้อย่างเข้าถึง ขณะที่ปู แบล็คเฮดและนักแสดงสมทบอื่น ๆ ทำหน้าที่ได้ตามบท แต่ยังไม่สามารถสร้างความผูกพันกับผู้ชมได้มากนัก
ในภาพรวม ฮาลาบาลา ป่าจิตหลุด คือความพยายามแหวกขนบหนังผีไทยด้วยการผสมแฟนตาซี ผจญภัย และสยองขวัญเข้าไว้ด้วยกัน ผลลัพธ์คือหนังที่เต็มไปด้วยไอเดียและความทะเยอทะยาน แต่ยังไม่กลมกล่อมพอสำหรับผู้ชมหมู่มาก ทว่ามันก็เป็นผลงานเปิดตัวในฐานะผู้กำกับที่น่าจับตาของเอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ และเป็นประสบการณ์ที่คอหนังไทยซึ่งอยากลองรสชาติใหม่ ๆ ควรพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่มีผู้ช่วยเขียนเป็น A.I. หากเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ
