Skip to content

[รีวิว] The Waterfront : น่านน้ำสีเทา (2025) | ดราม่าครอบครัว ปนกลิ่นอายอาชญากรรม ที่ทั้งวุ่นวายและชวนติดตาม

เวลาที่ใช้อ่าน : < 1 นาที

ถ้าคุณชอบซีรีส์ที่ผสมผสานดราม่าครอบครัว ความลับดำมืด ความรักสลับซับซ้อน และการกระทำสุดโต่งที่บางครั้งก็เกินความเป็นจริงไปไกล The Waterfront บน Netflix อาจเป็นซีรีส์ที่คุณควรลองเปิดดูสักครั้ง

ซีรีส์นี้เล่าถึงครอบครัวบัคลีย์ในเมืองชายฝั่งที่เหมือนสงบแต่ซ่อนความขัดแย้งไว้เพียบ ตัวละครหลักคือ Harlan Buckley รับบทโดย Holt McCallany ชายผู้แบกรับทั้งมรดก ความคาดหวัง และความลับในอดีต แต่หลายคนอาจรู้สึกว่าเขา “พยายามเกินไป” จนดูไม่เข้มขลังอย่างที่ตัวละครควรจะเป็น

อีกตัวละครที่คนดูหลายคนพูดถึงคือ Cane ลูกชายผู้ขาดความมั่นใจ โดนวิจารณ์ว่า “น่าสงสาร น่าโมโห และน่าหงุดหงิดในคนๆ เดียว” เขามีภรรยาและลูกที่สวยและน่ารัก แต่กลับไปหมกมุ่นกับแฟนเก่าอย่างไม่แคร์ความรู้สึกใคร

แต่ถ้ามองหานักแสดงที่ “ขโมยซีน” อย่างแท้จริง ต้องยกให้ Topher Grace ที่มาปรากฏตัวกลางซีซั่นในบท Grady – ตัวละครที่เต็มไปด้วยพลังความบ้า มีเสน่ห์ และน่าจดจำแบบเดียวกับ Lalo Salamanca ใน Better Call Saul หลายคนยอมรับว่าเนื้อเรื่องดูจะเริ่มสนุกจริงจังก็ตอนที่เขาโผล่มา และก็น่าเสียดายที่เส้นทางของเขาจบลงเร็วเกินไป

ด้านการแสดงของนักแสดงหญิงก็มีสีสันไม่แพ้กัน – Danielle Campbell ในบท Peyton ภรรยาคนสวยของ Cane ขึ้นชื่อว่าเป็น “เหตุผลที่หลายคนเปิดดูซีรีส์นี้” ขณะที่ Melissa Benoist ก็ได้รับคำชมในการรับบท Bree แม่ที่ต้องเผชิญกับลูกชายที่ปฏิเสธและเหยียดหยามเธอในฐานะอดีตคนติดยา

ซีรีส์นี้ดีไหม?

ถ้าวัดจากองค์ประกอบ The Waterfront เหมือนจะพยายามเป็นซีรีส์ระดับเดียวกับ Ozark, Animal Kingdom หรือ Yellowstone แต่บ้างก็ว่า “พยายามเกินไปจนล้น” ด้วยแค่ 8 ตอน เรื่องราวอัดแน่นจนบางอย่างรู้สึก “รวบรัด” หรือแม้แต่ “การ์ตูนเกินจริง” โดยเฉพาะบทของตำรวจและ DEA ที่ดูจะกลายเป็นตัวร้ายแบบง่ายๆ

บางคนก็บ่นว่าอารมณ์ของตัวละครระหว่างตอนมันขาดๆ เกินๆ รู้สึกไม่ค่อยอิน แต่หลายเสียงก็บอกว่า แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีพอให้ติดตามต่อ ซีรีส์เล่นกับธีมความล่มสลายของครอบครัวและการตัดสินใจที่อาจเปลี่ยนชะตาทั้งตระกูลได้ดี มีเส้นเรื่องลับๆ ที่ค่อยๆ เปิดเผยจนทำให้คนดูอยากรู้ว่าท้ายที่สุด ใครจะยืนหยัดอยู่ได้

สรุปแบบคนดูจริงๆ

  • ถ้าคุณชอบซีรีส์ดราม่าครอบครัวแบบ Dawson’s Creek ผสมอาชญากรรมแบบ Ozark นี่อาจจะเป็นเมนูแปลกใหม่ที่เข้าทาง
  • ถ้าคุณชอบบทพูดแสบๆ ฉลาดๆ Topher Grace จะทำให้คุณอยากดูทุกฉากที่เขาอยู่
  • ถ้าคุณชอบดูซีรีส์เพื่อวิจารณ์หรือมองหาความสมจริง 100% อาจจะมีหลายจุดที่คุณต้องเมินๆ ไปบ้าง

แต่สำหรับสายเน้นความบันเทิง นี่คือหนึ่งในซีรีส์ที่ดูเพลินๆ จบเร็ว (8 ตอน) มีจุดให้ติดตาม มีนักแสดงดี และมีพลังพอให้คุณอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรในซีซั่นหน้า

ส่งท้ายง่ายๆ เลยว่า

“ไม่ถึงขั้นมาสเตอร์พีซ แต่ก็ดีพอจะดูจนจบ และรอซีซั่นต่อไปได้แบบไม่ฝืนใจ”

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Optimized by Optimole