Skip to content

[รีวิว] Bird Box: Barcelona : มอง อย่าให้เห็น(บาร์เซโลนา) (2023)

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

Bird Box: Barcelona (2023) – มอง อย่าให้เห็น(บาร์เซโลนา) เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญสยองขวัญ กำกับและเขียนบทโดย Álex และ David Pastor เป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Bird Box (2018) ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ Josh Malerman ในปี 2014 โดยเริ่มฉายผ่าน Netflix ไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา

โครงเรื่องของภาคนี้ถูกเซ็ตขึ้นในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน จะพาติดตามสองตัวละครหลักคือ “เซบาสเตียน”(Mario Casas) และลูกสาวของเขา “อันนา”(Alejandra Howard) ที่พวกเขาพยายามเอาชีวิตรอดในโลกที่พังไปเพราะพลังอันลึกลับนั้น โดยระหว่างทางจะพบกลุ่มผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ และเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหม่ที่น่ากลัวไม่แพ้มหันตภัยที่มองไม่เห็นเช่นกัน (ต่อไปนี้อาจพบสปอยล์)

เมื่อเริ่มเนื้อเรื่องหนังจะพาเราเข้าใจว่าเป็นเรื่องของสองพ่อลูกที่ต้องฝ่าฟันทั้งสิ่งที่ลี้ลับและภัยคุกคามจากมนุษย์ดั่งที่เคยเห็นมาแล้วในภาคแรก จนกระทั่งหลังจากโดนปล้นอาหารจากกลุ่มคนตาบอด ทำให้เซบาสเตียนขอความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้รอดชีวิตระหว่างทาง แม้จะมีความไม่เชื่อใจที่จะช่วยเหลือกันเล็กน้อย แต่นั่นสุดท้ายแล้วกลุ่มก็พาเซบาสเตียนไปยังแหล่งพักพิง โดยก่อนเซบาสเตียนไปขอความช่วยเหลือเค้าให้ลูกสาวปลีกตัวออกไปก่อน โดยเค้าจะเข้าไปเพียงลำพังเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนจะปกป้องลูกสาวหากเกิดความไม่คาดฝัน

แต่เมื่อเซบาสเตียนเข้าไปยังอู่รถเมล์แล้ว แม้จะได้รับความช่วยเหลืออย่างดีกับเค้า แต่นั่นหนังก็เปิดเผยออกมาว่าเซบาสเตียนพาคนยกกลุ่มไปให้สิ่งลี้ลับนั้นสังหารยกกลุ่มเลย ทำให้เรารู้ได้ในทันทีว่าเซบาสเตียนนั้นไม่ต่างอะไรกับคนเสียสติที่สามารถลืมตาได้โดยไม่เกิดอันตรายใดๆ กับตัวเอง แถมลูกสาวที่มาด้วยนั้นเป็นเพียงภาพหลอนของลูกสาวที่ตายไปแล้ว มาถึงจุดนี้โอเค…ทำให้หนังดูน่าสนใจที่จะดูต่อไปว่าสุดท้ายนั้นจะไปลงเอยยังไงกับไอ้เชี่ยเซบาสเตียนคนนี้

Bird Box: Barcelona กับ Bird Box ในภาคแรกสิ่งที่ทำให้ต่างกันคือ เป็นหนังภาคแยก(spin-off)ที่นำเสนอจุดหักมุมและข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับจักรวาลนี้ ได้เห็นมุมมองจากฉากใหม่ๆ ที่ถูกเซ็ตขึ้นในเมืองบาร์เซโลน่า ซึ่งเพิ่มความรู้สึกสมจริงและความหลากหลายให้กับเรื่องราว และยังสำรวจประเด็นที่น่าสนใจ เช่น ความศรัทธา การเสียสละ การอยู่รอด และครอบครัว

ในระหว่างการดำเนินเรื่องก็นำเสนอฉากที่ตึงเครียดและน่าตื่นเต้นออกมาได้ดี และจะค่อยๆ เล่าย้อนกลับไปถึงสาเหตุต้นตอของเซบาสเตียนว่าทำไมเค้าถึงกลายเป็นกลุ่มคนพวกนั้นได้มากกว่าเป็นตัวเอกที่เป็นฮีโร่ แต่นั่นก็รู้สึกว่าทำออกมาให้เดาง่ายมากๆ จนเกินไป ตัวร้ายอย่างบาทหลวงเอสเตบันก็มิติที่ราบเรียบไปหน่อย แล้วก็ร้ายไม่ค่อยสุด แม้ว่าที่สุดท้ายแล้วยังไงคนดูก็เอาใจช่วยแคลร์ไปส่งเด็กหญิงเยอรมันอย่างโซฟีให้พ้นภัยตามที่น้องเล่าให้ได้ แต่ก็มีบางช่วงที่ทำออกมาให้ความน่าเชื่อถือลดลงเหมือนกันจากการหักมุมที่หักเหแบบรวบรัดจนเกินไป ที่สุดท้ายแล้วก็ดำเนินไปตามแบบ Bird Box ฉบับ 2018 เพียงแค่เปลี่ยนโลเคชั่นเป็นเมืองที่สวยงามเท่านั้น

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *