Skip to content

[รีวิว] DELETE (2023)

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

เมื่อ GDH (จอกว้างฟิล์ม) ร่วมมือกับหัวก้าวหน้าในยุคอย่าง -iSM ผลิตหนังด้วยทุนสร้างของ NETFLIX ในซีรี่ย์แนวระทึกขวัญและซ่อนเงื่อน (Thriller / Mystery/ Suspense) ในเรื่อง DELETE (ดีลีท) ในเดือน มิย. 2023 ด้วยชื่อและชั้นของทั้งผู้ผลิตและผู้กำกับแล้ว ไม่พลาดเลยต้องดูสักหน่อย

!!!ต่อไปนี้อาจพบสปอยล์ในรีวิว!!!

ซีรี่ย์ DELETE ออกมาพร้อมกันทั้งหมด 8 ตอนด้วยกัน ซึ่งตั้งแต่ตอนแรกเมื่อเรื่องเปิด ก็แสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นออกมาได้ในทันที ด้วยความที่ไม่เคยดูตัวอย่างของซีรี่ย์นี้มาก่อน ตอนแรกก็เข้าใจว่าโทรศัพท์นั้นคงเป็นเหมือนโซเชียลมีเดียที่สามารถ Unfriend/Delete friend แล้วคนหายไปจากชีวิตจริงได้ แต่พอดูไปแล้วก็พบว่าเดาผิดไป

หนังนั้นเซ็ตเนื้อเรื่องมาถึงโทรศัพท์ที่คนที่ถูกถ่ายนั้นจะวาร์ปอันตรธานหายไปได้แบบไร้ร่องรอย โดยวิธีการเล่าของซีรี่ย์นี้จะทยอยเปิดเผยเฉลยเนื้อหาและพร้อมกับตัวละครใหม่ๆ ออกมาในตอนใหม่ โดยทิ้งท้ายความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชมไว้ในตอนท้ายของแต่ละตอนในตอนจบ (Cliffhanger) ซึ่งทำให้หลายๆ คนนั้นคาใจรีบกด Play Next Episode ในทันที

แม้ในเรื่องโทรศัพท์จะมีความสามารถพิเศษ โดยเราไม่รู้ที่มาของมันเลยว่ามันมาอยู่ในมือ “แคลร์” (ลีเกด ศุภวัลย์) ได้ยังไง แม้แต่ตอนที่เฉลยออกมาแล้วก็พบว่าเธอใช้งานเพื่อ “ช่วยเหลือ” ผู้ป่วยที่สิ้นหวังในชีวิตกันไปแล้ว (หากเปรียบกับเรื่อง SAW ตัวร้ายเล่นเกมส์โรคจิตกับคนที่ไม่เห็นคุณค่าในชีวิต ส่วนแคลร์ในดีลีทนั้นทำตรงกันข้าม) และโทรศัพท์นั้นก็เป็นเพียงส่วนประกอบของเส้นเรื่องหลักเท่านั้น

โดยเนื้อแท้ของซีรี่ย์นั้นเล่าถึงความสัมพันธ์ของสองคู่รัก ที่ไม่ซื่อสัตย์กับชีวิตคู่ของตนเอง คือ “เอม” (ณัฏฐ์-กิจจริต) และ “ลิลลี่” (ฟ้า-ษริกา) ซึ่งทั้งคู่นั้นมีคนรักกันอยู่แล้ว โดยลิลลี่นั้นแต่งงานแล้วกับเศรษฐีของเจ้าของฟาร์มใหญ่ “ทู” (ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์) ส่วนเอมก็มีคนรักอยู่แล้วเหมือนกันคือ “อร” (ออกแบบ-ชุติมณฑน์) แต่เรื่องจะดำเนินผ่าน ทู-ลิลลี่-เอม เป็นตัวหลัก ส่วนอรนั้นเป็นตัวสมทบเพียงเพื่อให้เอมใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปอรเพื่อ “ลบความผิด” (FALSENESS) เพราะกลัวที่จะถูกเปิดโปงทั้งเรื่องชู้และเรื่องโกหกของนิยายปั้นเรื่องขึ้นมาจนทำให้ตัวเองโด่งดัง 

รวมถึงตัวละครสมทบอื่นๆ ที่เติมเข้ามาก็เพียงเพื่อเติมความสับสนและสงสัยให้กับคนดูขึ้นมาว่าจริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นและจะเดินไปทางไหนกันต่อ อย่างเช่น เรื่องที่น้องสาวของทูคือ “จูน” (ชาร์เลท-วาศิตา) ที่ทำให้มันอลม่านขึ้นด้วยนิสัยลักเล็กขโมยน้อยของเธอ จนไปขโมยโทรศัพท์พิศวงมาจากลิลลี่ เพียงเพราะความไม่พอใจต่อลิลลี่ แต่เมื่อจูนพบความสามารถของโทรศัพท์นั้นเธอจึงใช้มันแก้แค้นเพื่อนที่โรงเรียนประจำที่มีนิสัยบูลลี่ นั่นทำให้เรื่องอลม่านเข้าไปอีกเมื่อ “โต้ง” (เจ้านาย-จินเจษฎ์) มาเห็นเข้าพอดี ซึ่งมันทำให้เรื่องมันไปกันใหญ่อีก มันเลยทำให้ตำรวจที่ตามคดีเรื่องนี้อยู่นั้นอย่าง “ยุทธชัย” (ปีเตอร์-นพชัย) ที่ภายหลังก็เฉลยว่าเป็นพ่อของแคลร์และต้องการนำลูกกลับมา เพียงเพราะว่าแคลร์เคยไปขอร้องให้ลิลลี่ถ่ายรูปให้

เนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับโทรศัพท์พิศวงก็ประมาณเท่านี้ แต่ยอมรับว่าทำออกมาค่อนข้างฉลาดในการเชื่อมโยง โดยทุกตัวละครนั้นสุดท้ายแล้วก็มาเกี่ยวข้องกันทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่โต้ง ที่สุดท้ายแล้วก็พบว่าพี่สาวของโต้งที่หายไป ข้องแวะเกี่ยวข้องกับทูและลิลลี่ แต่โต้งนั้นยังไม่รู้ มีแค่จูนที่เห็นรูปในอินสตาแกรมกับลิลลี่ที่พบศพในห้องลับใต้คอกม้า โดยปิดซีซั่นปลายเปิดไว้ให้เราคาใจดั่งที่ทำออกมาให้แต่ละตอนนั่นแหละครับ หากอยากรู้จะเป็นยังไงต่อไปกับชะตากรรมของลิลลี่ที่พบความจริงนั้น คงต้องรอตอนใหม่ซีซั่นใหม่นั่นแหละครับถึงจะเฉลย แต่ให้ดูพฤติกรรมของทูที่มีต่อลิลลี่แล้ว คิดว่าไม่ทำอะไรเพราะทั้งเรื่องเราจะเห็นว่าทูนั้นรักลิลลี่แบบไม่มีเงื่อนไขจริงๆ ให้อภัยได้ทุกอย่างทั้งเรื่องชู้และยอมเลี้ยงลูกชู้อีกต่างหาก และคาดเดาว่าซีซั่นถัดไปหนังคงเบี่ยงไปเล่าเรื่องความโรคจิตของตระกูลของทูและความลับที่เกิดขึ้นในฟาร์ม

ด้านงานโปรดักชั่นนั้นทำออกมาได้ค่อนข้างดี วางเฟรมในแต่ละซีนด้วยความตั้งใจและออกมาดีมาก เว้นแต่ว่าการกำหนดธีมหนังในดูลึกลับ มืดหม่น จนต้องปิดไฟดู เพราะหนังมันมืดมากในบางซีน และมีข้อด้อยเล็กๆ น้อยๆ ในบางไดอะล็อก เช่น คำว่า “ลบ” เข้าใจว่าพูดมาเพื่อให้คล้องกับชื่อเรื่อง แต่บางทีฟังแล้วก็ดูสึกขัดความรู้สึก บางตัวละครอย่างทู เห็นเมียตัวเองถูกถ่ายรูปแล้วหายไป แต่ใช้คำว่า “ลบ” ซึ่งมันแปลกที่กล้องถ่ายรูปมันควรจะถูกเรียกว่า “ถ่าย” หรือ “กดชัตเตอร์”, “กดถ่าย” อะไรก็ว่าไป แต่หลายๆ ทั้งใช้คำว่าลบ ฟังดูแล้วมันแปลกๆ เว้นแต่ว่าใช้โทรศัพท์มานานจนเข้าใจจะว่าไปอย่าง แต่นั่นก็เพียงเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีผลกับความสนุกของเรื่องแต่อย่างใด และคิดว่าเรื่องนี้ดูง่ายเข้าใจง่าย วางเรื่องวางภาพไว้ขายได้แบบอินเตอร์ได้สบายๆ

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *