Skip to content

[รีวิว] Extraction II : คนระห่ำภารกิจเดือด 2 (2023)

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

ห่างจากภาคแรกมา 3 ปี ในที่สุด Extraction II ชื่อไทย “คนระห่ำภารกิจเดือด 2” ก็ออกมาให้รับชมความระห่ำกันทั่วบ้านทั่วเมืองทาง Netflix และเนื่องจากห่างภาคแรกไปนาน เลยขอย้อนสรุปสั้นเรื่องราวของภาคแรกนิดนึง

สรุปเนื้อเรื่อง Extraction ภาคแรก

ทหารรับจ้างไทเลอร์ เรค (คริส เฮมส์เวิร์ธ) ได้รับการว่าจ้างให้ช่วยเหลือโอวี มหาจัน จูเนียร์ (Rudhraksh Jaiswal) ลูกชายที่ถูกลักพาตัวของเจ้าพ่อยาเสพติดชาวอินเดีย ไทเลอร์แทรกซึมเข้าไปในเมืองธากาที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาในบังกลาเทศ เผชิญหน้ากับเจ้าพ่อยาเสพติด “อาเมียร์ อาซีฟ” (Priyanshu Painyuli)ผู้โหดเหี้ยมและกองทัพตำรวจทหารที่เป็นสมุนของเขา ขณะที่ภารกิจดำเนินไป ไทเลอร์ได้สร้างความผูกพันกับโอวี่เพราะคิดถึงลูกชายที่ตายไป จึงตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำให้โอวี่อยู่รอดให้ได้ แม้พ่อและลูกน้องพ่อโอวี่ “ซาจู ราฟ” เบี้ยวไม่จ่ายจ้างทีมของไทเลอร์ จึงนำไปสู่ความเละทะและความซวยให้กับเมืองธากา การดวลปืนที่สนั่นเมืองและการขับรถไล่ล่า ในที่สุดไทเลอร์ก็เหมือนจะพบจุดจบของชีวิตเหมือนโดนยิงจากข้างหลัง โดยดำดิ่งจากสะพานลงสู่แม่น้ำเบื้องล่าง ขณะที่โอวี่นั้นรอดปล่อยภัยในที่สุด ปล่อยให้ชะตากรรมของไทเลอร์ดูคลุมเครือไม่แน่นอนว่าอยู่หรือตายกันแน่

รีวิว Extraction II (คนระห่ำภารกิจเดือด 2) และอาจพบสปอยล์

เปิดเรื่องมาด้วยฉากจบของภาคที่แล้วที่ไทเลอร์ดิ่งลงสะพานสู่แม่น้ำในเมืองธากา แต่แล้วเรื่องก็ดำเนินต่อเมื่อทีมทหารรับจ้างของไทเลอร์นั้นพบเขายังรอดชีวิตและถูกนำไปรักษาตัวในที่สุด แม้เรื่องจะเหมือนต่อจากภาคแรก แต่จะพบว่าเนื้อเรื่องนั้นไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว นอกจากตัวละครสมทบเดิมจากภาคแรกอย่าง นิก และ แยซ

เมื่อรักษาตัวเรียบร้อยก็มารักษาใจและเกษียณตัวเองไปอยู่ที่เงียบสงบในออสเตรีย แต่แล้วก็มีงานที่ยากจะปฏิเสธเมื่อน้องเมียเก่าของไทเลอร์คือคีโต เริ่มที่จะไม่ปลอดภัยที่อยู่ในเรือนจำในจอร์เจีย คีโตไม่ได้ทำความผิดอะไรหรอกนะ แต่อยู่ในเรือนจำเพราะสามีติดคุก ทางการอนุญาตให้เมียและลูกทั้งสองเข้าไปอาศัยกับพ่อได้ด้วย นั่นเลยเป็นการปฏิบัติการชิงตัวประกันในภาคนี้

และก็จะเริ่มด้วยฉากแอคชั่นหฤโหดยาวๆ 21 นาทีตั้งแต่เริ่มช่วย 3 แม่ลูกในเรือนจำ ขับรถไล่ล่า จนจบบนรางรถไฟในเขตปลอดภัย ขอคาราวะงามๆ สมกับผู้กำกับที่เป็นอดีตสตั้นแมนมาก่อน โดยฉากนี้ใช้เวลาซ้อม 4 – 5 เดือน และ ใช้เวลาถ่ายจริง 29 วัน ออกมาได้เนี๊ยบแบบนี้จะไม่สมควรคาราวะได้ไง มันส์จนแทบลืมหายใจ

แม้หนังจะแอคชั่นต่อสู้กันจนตลอดทั้งเรื่อง ก็ยังมีช่องว่างเติมเต็มความดราม่าเข้ามาบ้าง โดยเติมเข้ามาในระยะเวลาที่กำลังพอดีๆ ไม่เวิ่นเว้อยืดเยื้อจนเกินไป ใส่มาให้สมเหตุสมผลและความลุ่มลึกของเรื่อง

การพัฒนาตัวละครของเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดีจริงๆ โดยเฉพาะคู่สองพี่น้อง นิก และ แยซ จากภาคแรกไม่ค่อยมีบทบาทเด่นชัดเท่าไหร่ แต่ภาคนี้แบ่งความแอคชั่นให้ผู้ชมได้เห็นความเก่งกาจของสองพี่น้องอย่างจุใจ นิกรับบทบาทโดย Golshifteh Farahani เล่นบทบู๊ได้ดีมากๆ เลยนะ และยังทำออกมาได้ดีออกมาได้อิน สัมผัสได้ถึงความกลมเกลียวของคู่นี้ เมื่อแยซไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ รู้สึกถึงความเศร้าครอบงำเข้ามาเลย นอกจากนั้นยังพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง นิก กับ ไทเลอร์ ให้เหมือนมีซัมติงสักอย่าง เป็นการปูทางขยายไปจักรวาลหรือภาคต่อๆ ไปได้อีก

เรื่องงานโปรดักชั่นนั้นไม่ต้องห่วง ทุนสร้างประมาณ $65ล้าน เนรมิตรภาพจากภาคแรกยิงกันกลางเมืองธากาภาพเหลืองๆ มายิงกันในออสเตรียบนตึกระฟ้า พร้อมด้วยตัวร้ายทหารแบบโหดสัสจอร์เจีย เครื่องแบบชุดเกราะแบบจัดเต็ม ยิงล้มกันยากแน่นอน

แต่เรื่องก็มีช่องว่างบ้างนิดๆ หน่อยๆ อย่างเรื่องโทรศัพท์ที่ไม่มีการรักษาความปลอดภัย ให้เด็กขโมยไปใช้งานได้ การที่มีจังหวะเก็บตัวร้ายซูเรบแบบจบได้เลย แต่ก็ปล่อยไป เพื่อดึงไปสู่ฉากจบที่แท้จริง แต่นั่นก็เพียงจุดเล็กๆ น้อยๆ สามารถมองข้ามไปได้ และไม่ได้ทำเสียอรรถรสในการรับชมแต่อย่างใด เพราะจุดขายของเรื่องนี้มันคือฉากแอคชั่นนั่นเอง

สรุปแล้วหนังมีระยะเวลา 123 นาทีรับรองว่าไม่มีช่วงเบื่อแน่นอน เปิดลำโพงดังๆ แล้วเอนจอยได้เลย ชอบแอคชั่นบู๊ระห่ำไม่ผิดหวังแน่นอน

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *