Skip to content

[รีวิว] Guillermo del Toro’s Pinocchio : พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล โตโร (2022) | ตุ๊กตาไม้ที่เต้นรำกับความเป็นมนุษย์

เวลาที่ใช้อ่าน : < 1 นาที

Guillermo del Toro ไม่เคยทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ และงานในปี 2022 ของเขา Pinocchio คือบทพิสูจน์ชัดเจนที่สุดว่าศิลปะการเล่าเรื่องสามารถโอบกอดความมืดมิด ความเศร้า และความงดงามของชีวิตไว้ด้วยกันได้อย่างลึกซึ้งที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่การนำเรื่องราวคลาสสิกของ Carlo Collodi มาทำซ้ำบนจอเงิน แต่คือการตีความใหม่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปจากต้นไม้แห่งความทรงจำที่ Disney เคยร้อยเรียงใน Pinocchio (1940s)

ในขณะที่เวอร์ชันของ Disney เติมเต็มโลกของเด็กๆ ด้วยสีสันสดใส เพลงร้องสนุกสนาน และบทเรียนชัดเจนเกี่ยวกับการซื่อสัตย์และความรับผิดชอบ แต่ del Toro เลือกที่จะสำรวจความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ผ่านดวงตาไม้ของ Pinocchio โลกของเขาเต็มไปด้วยเงาและหมอกควัน มีความทุกข์และความสูญเสียที่ Disney มักจะละเว้น เขาไม่กลัวที่จะปล่อยให้ตัวละครเผชิญกับความเศร้า ความกลัว และความขัดแย้งภายใน ซึ่งทำให้ Pinocchio ของ del Toro เป็นมากกว่า “ตุ๊กตาไม้ที่อยากเป็นเด็กจริง” แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเปราะบาง ความไม่แน่นอน และการเติบโตในโลกที่ไม่ยุติธรรม

สิ่งที่น่าทึ่งคือเทคนิค stop-motion animation ที่ del Toro ใช้ร่วมกับ พันธมิตรฝีมือเยี่ยมอย่าง Mark Gustafson และทีมผู้ออกแบบตุ๊กตา การเคลื่อนไหวของ Pinocchio มีทั้งความอ่อนโยนและความสมจริง การกระพือปีกของจินตนาการถูกสอดประสานกับรายละเอียดทางกายภาพของไม้และผ้า ตาเล็กๆ ที่เปลี่ยนสีเมื่อรู้สึกผิดหวังหรือดีใจ เป็นบทพิสูจน์ถึงความละเอียดอ่อนในการสร้างสรรค์ตัวละครแบบสามมิติที่มีชีวิตชีวา

Guillermo ยังกล้าแทรก ประเด็นสังคมและปรัชญา ลงในเรื่องราว ตั้งแต่สงคราม ความตาย จนถึงความเป็นอยู่ของมนุษย์ที่ถูกบังคับให้ต้องอยู่ใต้เงามืด Pinocchio ของ del Toro จึงไม่ใช่แค่เรื่องเล่าสำหรับเด็ก แต่คือบทกวีภาพเคลื่อนไหวที่ถามคำถามใหญ่: “ความหมายของชีวิตคืออะไร?” และ “เราจะอยู่ร่วมกับความจริงอันโหดร้ายได้อย่างไร?”

ความต่างชัดเจนระหว่าง เวอร์ชันดั้งเดิมของ Collodi กับเวอร์ชันนี้อยู่ที่โทนและน้ำหนักทางอารมณ์ ต้นฉบับเป็นเรื่องเตือนใจเด็ก แต่ยังมีความมืดอยู่ในหลายตอน เช่น Pinocchio ถูกลงโทษและเรียนรู้ความเจ็บปวด del Toro นำเอาจุดมืดนี้มาตีความใหม่ ปรุงรสด้วย ความเศร้า ความรัก และความเศร้าสร้างสรรค์ จนเกิดเป็นงานศิลปะที่กล้าหาญและเป็นผู้ใหญ่พอสมควรที่จะเข้าใจ

รางวัลที่ภาพยนตร์ได้รับก็สะท้อนถึงคุณภาพและความเป็นเอกลักษณ์ของงานนี้ ไม่ว่าจะเป็น รางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม, รางวัลลูกโลกทองคำ, หรือ รางวัล Annie Awards ที่ยกย่องการสร้างสรรค์อนิเมชันชั้นสูง ทั้งหมดนี้เป็นการยืนยันว่า Guillermo del Toro สามารถนำเรื่องราวคลาสสิกมาทำให้เกิดชีวิตใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง และยังคงรักษาแก่นแท้ของเรื่องราวดั้งเดิมไว้อย่างลึกซึ้ง

สรุปแล้ว Guillermo del Toro’s Pinocchio ไม่ใช่เพียงภาพยนตร์ แต่เป็นประสบการณ์ทางอารมณ์ เป็นบทกวีบนไม้ เป็นภาพสะท้อนของความเป็นมนุษย์ และเป็นการพิสูจน์ว่าแม้ตุ๊กตาจะทำจากไม้ แต่หัวใจของมันสามารถสั่นไหวและเปล่งประกายได้เหนือจินตนาการใดๆ

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Optimized by Optimole