จากที่ไม่ค่อยได้ตามข่าววงการหนังไทยเท่าไหร่ ตอนแรกที่เห็นตัวอย่าง เขาชุมทอง คะนองชุมโจร หรือชื่อภาษาอังกฤษ Gold Rush Gang ก็แอบเดาไปเองว่า น่าจะเป็นงานของ “หม่ำ จ๊กม๊ก” เพราะภาพรวมดูเป็นหนังตลาด ตลกผสมบู๊แบบที่เราคุ้นเคยกัน แต่พอดูไปสักพัก กลับต้องหยุดชะงัก เพราะภาพที่เห็นมัน “ตั้งใจ” แปลกๆ — ทั้งโทนสีฉูดฉาดเหนือจริง การเร่งสปีดเฟรมเหมือนหนังยุคก่อน หรือจะว่าไปคล้ายกับการ์ตูนที่ถูกแปลงเป็นไลฟ์แอคชั่นมากกว่า จนต้องกด Pause แล้วเปิดหาข้อมูลว่าใครคือผู้กำกับจริงๆ

และก็พบว่าไม่ใช่หม่ำ แต่คือ “วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง” เจ้าของผลงาน The Murderer เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ (2023) ที่เคยสร้างความประทับใจไว้พอสมควร แต่สำหรับเรื่องนี้ กลับให้ความรู้สึกเหมือนเกือบจะ “ได้” แต่ก็ยังไม่ “ถึง” มาตรฐานที่เคยทำไว้
พล็อตและโทนแบบย้อนยุค
เรื่องราวพาเราย้อนกลับไปในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อญี่ปุ่นยกทัพเข้ามาในไทย หนังหยิบธีมคาวบอยปนเชิดชูวีรชนแบบที่เราคุ้นจาก 7 ประจัญบาน หรือ คู่กรรม มาผสมกับกลิ่นอายการ์ตูน-แฟนตาซีในแบบเฉพาะของวิศิษฏ์ คล้ายจะเป็น ฟ้าทะลายโจร เวอร์ชันยุคทองคำ

สิ่งที่ขัดใจคือการเลือกให้นักแสดงจากภาคอีสานอย่างหม่ำ และ “แบงค์-ธิติ” มาแหลงใต้ ซึ่งยากที่จะทำให้ผู้ชมเชื่อสนิทใจ บางครั้งถึงขั้นรู้สึกขัดหูไปเลย
งานภาพและ CGI: ตั้งใจแต่ไม่สมจริง
เอกลักษณ์ของวิศิษฏ์ยังคงอยู่ครบ ทั้งงานภาพที่จงใจ “เกินจริง” เพื่อเลี่ยงการพึ่ง CG แบบสมจริงเกินไป คล้ายสิ่งที่หม่ำเคยทำกับ แหยม ยโสธร เพียงแต่ในเรื่องนี้เพิ่มความบู๊และแฟนตาซีเข้าไปอีก การถ่ายทำฉากแคมป์โจรให้บรรยากาศแบบ Red Dead Redemption 2 ถือว่ายกระดับงานโปรดักชันของหนังไทยขึ้นไปอีกขั้น และไคลแมกซ์ฉากดวลปืนก็พอทำให้เห็นลายเซ็นของวิศิษฏ์กลับมาชัดเจนขึ้น

การใช้ AI น้าค่อม: กิมมิคที่กลายเป็นดราม่า
หนึ่งในจุดที่คนพูดถึงมากคือการ “คืนชีพ” น้าค่อม ชวนชื่น ด้วยการสร้างภาพและเสียงด้วย AI แม้จะเข้าใจว่าผู้กำกับและหม่ำตั้งใจให้เป็นกิมมิคเรียกความคิดถึง แต่การนำเสนอที่ยังไม่เนียนพอ กลับทำให้ถูกมองว่าเป็นการลดทอนคุณค่าการแสดงของน้าค่อมเองเสียมากกว่า ซึ่งถ้าเลือกใช้ลูกชายของน้าค่อมอย่าง “โค้ก” หรือ “เอ้” มารับช่วงต่อ ก็น่าจะเป็นการเคารพต้นฉบับและเลี่ยงดราม่าได้ดีกว่า

จุดอ่อนของบทภาพยนตร์
สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือบทภาพยนตร์ที่เริ่มต้นด้วยเส้นเรื่องการปล้นทองของชุมโจร แต่กลับวกไปสู่ดราม่า “รักซ้อน เพื่อนทรยศ” ในช่วงท้าย ซึ่งทำให้การปูเส้นเรื่องปล้นทองและความสัมพันธ์ของทีมโจรกลายเป็นเพียงแบ็กกราวด์ที่เบาบางและไร้น้ำหนัก ทั้งที่จริงๆ การชิงรัก “ชมจันทร์” ของโกหว่าน่าจะถูกใช้เป็นเส้นเรื่องหลักตั้งแต่แรก จะได้ทำให้โศกนาฏกรรมในตอนท้ายทรงพลังมากขึ้น
สรุป
เขาชุมทอง คะนองชุมโจร คือหนังที่มีภาพใหญ่และโปรดักชันน่าสนใจ แต่สะดุดเพราะบทและการเล่าเรื่องที่ไม่ลงตัว ความตั้งใจในสไตล์แฟนตาซีของวิศิษฏ์อาจทำให้บางคนเพลิดเพลิน แต่สำหรับคนที่คาดหวังความสมจริงหรือเส้นเรื่องที่กลมกล่อม อาจต้องเตรียมใจรับความผิดหวังอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม หากดูแบบไม่คิดอะไรมาก หนังเรื่องนี้ก็ยังมอบความบันเทิงได้พอสมควร

อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่มีผู้ช่วยเขียนเป็น A.I. หากเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ