Skip to content

[รีวิว] Wind River : ล่าเดือด เลือดเย็น (2017)

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

Wind River ชื่อไทย “ล่าเดือด เลือดเย็น” เป็นหนังระทึกขวัญแนวอาชญากรรม ที่จะพาผู้ชมไปสู่การเดินทางอันหนาวเหน็บ ผ่านภูมิประเทศที่ยากจะคาดเดาของ Wind River Indian Reservation เขตสงวนอินเดียน ในรัฐไวโอมิง เรื่องนี้กำกับโดยเทย์เลอร์ เชอริแดน (มือเขียนบทจาก Sicario (2015), Hell or High Water (2016) และ Sicario: Day of the Soldado (2018) และนำแสดงโดยเจเรมี เรนเนอร์ในบทคอรี แลมเบิร์ต นายพรานผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานปลาและสัตว์ป่าของสหรัฐฯ และเอลิซาเบธ โอลเซนในบทเจน แบนเนอร์ เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ยังอ่อนประสบการณ์ เรื่องราวจะพาเราสำรวจความสัมพันธ์ที่ไม่น่าเป็นไปได้ของพวกเขา ในขณะเดียวกันต้องร่วมมือไขปริศนาเบื้องหลังการฆาตกรรมของหญิงสาวอินเดียนคนหนึ่งในเขตสงวน

ภาพยนตร์นำเสนอให้เรารู้จักกับภูมิหลังของตัวละครเอกทั้งสอง คอรี แลมเบิร์ต เป็นชายที่ถูกตามหลอกหลอนด้วยโศกนาฏกรรมที่ต้องสูญเสียลูกสาวไปเมื่อหลายปีก่อน ภายใต้สถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันกับที่พบศพสาวอินเดียน ความใกล้ชิดของเขากับเขตสงวนอินเดียน จึงเป็นแรงจูงใจในเล่นเล่นบทสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ในทางกลับกัน เจน แบนเนอร์ เป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่อายุน้อยแต่มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะไขคดี การย่างกายเข้าสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคยและการขาดประสบการณ์ ทำให้มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เธอก็ยังมีแรงผลักดันที่ไม่หยุดยั้งเพื่อความยุติธรรมให้กับเหยื่อ

เรื่องราวเริ่มต้นอย่างแท้จริงเมื่อคอรี่ ออกล่าสิงโตภูเขานั้น แต่กลับพบร่างแช่แข็งของนาตาลี หญิงสาวชาวอเมริกันพื้นเมือง ตำรวจท้องถิ่นที่มีกำลังเพียงน้อยนิดนั้น ไม่พร้อมและอำนาจไม่ถึงที่จะจัดการกับกรณีดังกล่าว และเจนจึงถูกเรียกให้เข้ามา เพราะว่าเอฟบีไอมีสิทธิ์ในการเข้าถึงทุกพื้นที่ในสหรัฐ เมื่อเจนตระหนักถึงความต้องการใครสักคนที่มีความรู้เกี่ยวกับพื้นที่และผู้คนแบบคอรี่ เจนจึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากเขา คอรี่ตอบตกลงที่จะช่วยเหลือเธอ โดยรู้ดีว่าความเจ็บปวดและความอยุติธรรมนั้นมีอยู่ทั่วในเขตสงวน

เมื่อการสืบสวนคลี่คลายลง ภูมิประเทศของเขตสงวนจะกลายเป็นส่วนสำคัญของเรื่องราว ความหนาวเย็นและความกว้างใหญ่ของภูมิประเทศที่ปกคลุมด้วยหิมะ สะท้อนถึงความโดดเดี่ยวและความอ้างว้าง ที่ตัวละคร.ในเรื่องนั้นแสดงออกมาให้เห็นผ่านภาพยนตร์ สภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ทำหน้าที่เป็นอุปมาอุปไมยสำหรับการต่อสู้ ที่ประชากรอเมริกันพื้นเมืองต้องเผชิญ โดยเน้นประเด็นทางสังคมและเศรษฐกิจที่พวกเขาต้องเผชิญ

บทภาพยนตร์ผสานการเล่าเรื่องเข้าด้วยกันอย่างยอดเยี่ยม สร้างความตึงเครียดและลุ้นระทึกไปกับทุกฉาก การเว้นจังหวะเป็นไปอย่างตั้งใจ และช่วยให้สามารถพัฒนาแรงจูงใจและความขัดแย้งภายในของตัวละครได้ในแบบอย่างค่อยเป็นค่อยไป บทสนทนามีความคมชัดและสะเทือนอารมณ์ โดยนำเสนอข้อคิดเห็นเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขตสงวน และประเด็นที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับการสูญเสีย ความเศร้าโศก และการไถ่บาป

เรื่องราวไม่ได้เปิดเผยหรือให้ความสำคัญมากเกินไปในประเด็นของสังคมในภาพยนตร์ แต่เน้นไปเรื่องที่ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้าเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับชะตากรรมอันน่าเศร้าของนาตาลีเท่านั้น ไม่สามารถหลบเลี่ยงความเป็นจริงอันโหดร้ายของอาชญากรรมเหล่านี้ โดยนำเสนอในลักษณะที่ดิบเถื่อนและไม่หวั่นเกรงใดๆ

การแสดงของ เจเรมี เรนเนอร์ และ เอลิซาเบธ โอลเซน นั้นยอดเยี่ยมมาก การแสดงภาพของคอรี่นั้น สื่อถึงอารมณ์ออกมาได้อย่างลึกซึ้ง โดยจับเอาความกดดันภายในใจออกมาเงียบๆ ของชายคนหนึ่ง ที่ถูกความเศร้าโศกครอบงำและถูกผลักดันให้ต้องยุติเรื่องราว ส่วนเอลิซาเบธ โอลเซน เปล่งประกายในฐานะเจน ท่องไปในดินแดนที่ไม่คุ้นเคยด้วยความมุ่งมั่นที่ซ่อนความเปราะบางไว้

โดยสรุปแล้ว Wind River (ล่าเดือด เลือดเย็น) เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม ผสมผสานเรื่องราวที่น่าสนใจ การแสดงที่น่าหลงใหล และการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ค่อนข้างดี ภูมิประเทศของเขตสงวนทำหน้าที่เป็นฉากหลังที่ชวนหลอนและรันทด โดยเน้นให้เห็นถึงการต่อสู้ดิ้นรนที่ตัวละครและชุมชนต้องเผชิญ จังหวะการเล่าเรื่องและบทภาพยนตร์ดำเนินการอย่างแม่นยำ ทำให้ผู้ชมจมดิ่งอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยโศกนาฏกรรม ความอยุติธรรม และการแสวงหาความจริงอย่างไม่ลดละ ขอแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ให้กับทุกคนที่กำลังมองหาประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่กระตุ้นความคิดและกระตุ้นอารมณ์ แล้วจะรู้ว่าไม่ผิดหวังหรอกครับ

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *