Skip to content

[รีวิว] เธอกับฉันกับฉัน : You & Me & Me (2023)

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

เธอกับฉันกับฉัน (You and Me and Me) ไม่ทันได้ดูในโรง แต่ตอนนี้ก็เข้า Neflix แล้วเลยไม่พลาดที่ต้องรีบดู และก็พบว่าไม่ผิดหวังนะ ค่อนข้างประทับใจงานนี้จากสองผู้กำกับ ว.ว. จากค่าย จอกว้าง ฟิล์ม และ GDH

ตัวหนังนั้นใช้วัตถุดิบจากเพลง “กันและกัน” (You & Me) ของ ไทรอัมส์คิงดอม อัลบั้ม Twice TK ที่มีเพลงดังอย่าง “ผ้าเช็ดหน้า” ออกวางจำหน่ายในช่วงปี 1999 ซึ่งมันใกล้เคียงกับการตื่นตัวเรื่อง Y2K ล้างโลกพอดีในช่วงนั้น ผลกระทบจากวิกฤติต้มยำกุ้ง บวกเข้ากับบรรยากาศพื้นหลังเมืองนครพนมริมโขงที่เรียบง่าย โดยใช้ความน่ารักของ “ใบปอ ธิติยา” มาเป็นฝาแฝด “ยู และ มี” เป็นตัวขับเคลื่อนในหนังตั้งแต่ต้นจบจบ

พอดูหนังเห็นแต่ละซีนที่ค่อนข้างละเมียด และถ่ายทอดออกมาได้ดี ก็นึกถึงไว้ว่าคงเขียนทรีตเมนต์กับบทวางไว้อย่างดีเป๊ะๆ.. ทำให้ดำเนินเรื่องออกมาได้แบบละมุน ลงตัว และไม่มีช่วงเบื่อเลย

ในช่วงแรกหนังจะปูให้รู้จักตัวละคร เด็กสาว ม.ต้น วัยใส มีความฉลาดและเล่ห์เหลี่ยมนิดๆ ให้เห็นว่าหนังนั้นออกไปทางป๊อปปี้เลิฟวัยรุ่นใสใส แต่เมื่อดำเนินไปเรื่อยๆ จะค่อยเพิ่มความเข้มข้นและการขัดแย้งของความสัมพันธ์ออกมาให้ไม่รู้สึกเบื่อในจังหวะที่พอดิบพอดี เช่น ฉากพายเรือระหว่างหมากกับมีที่ปลอมตัวเป็นยู ความรู้สึกกำลังเบื่อๆ เข้ามา แต่เหมือนเขียนบทดักเราไว้ ให้จังหวะโป๊ะ! เรือล่มพอดี

อีกฉากนึงที่ทำออกมาได้ประทับใจ ทำน้อยได้มากก็ฉาก ยูง้อมี พาไปงานวัด แต่งานนั้นเลิกไปแล้ว โดยใช้ภาพการเล่าแบบแฟนตาซีหน่อยๆ แม้ว่าโปรดักชั่นไม่ได้ว้าวอลังการงานสร้างมาก แต่ไม่รู้สิ คิดว่ามันลงตัวเลยดีนะ และฉากช่วงท้ายๆ เล่นกับกับความว่างเปล่านั่นก็รู้สึกจับใจได้ดีอย่างบอกไม่ถูกอีก

และแม้ว่าพล็อตเรื่องระหว่างที่หนังนั้นดำเนินไป จะแอบเดาในตอนท้ายได้ว่าแฝดคู่นี้ต้องห่างกันแน่ๆ แต่ก็แอบลังเลใจว่าจะห่างแบบไหน? ระหว่างแยกกันอยู่กับแยกกัน “ไม่มีชีวิต” ซึ่งหนังก็ทำออกมาได้ดี มีจังหวะหักมุมเล็กๆ ที่ใช้การเล่าที่บีบคั้นค่อนข้างดี

ที่ว่าเดาได้นั้นไม่ใช่ฉลาดหรืออะไรหรอกนะครับ พอดีเป็นแฟนเพลง TK และเพลงธีม “กันและกัน” มันไม่สมหวังเอาซะเลย เลยคิดว่ามันต้องจบแบบขมหน่อยๆ ล่ะ และพูดถึงเรื่องเพลงในหนังอีกเพลงที่เหมือนเป็นเพลงโปรโมทอย่าง “ผ้าเช็ดหน้า” ก็จะบอกอีกว่าปล่อยเพลงในหนังด้วยจังหวะที่ดีจริงๆ ไม่ใช่แค่เอาเพลงยุคนั้นมาเปิดยุคนี้เฉยๆ เพลงยังสื่อความหมายการทอดสะพาน อ่อยไอ้หมาก นั่นแหละครับ

ส่วนเพลงพิณที่น้องๆ ตัวละครสมทบร้องภาษาอีสานจีบยูกับมีนั้น ก็ยังออกมาดีทั้งสองเพลงเลย

แต่จุดด้อยก็ยังมีบ้าง แต่คิดว่าเล็กๆ น้อยๆ อย่างตัวละครสมทบอย่างพ่อกับแม่ของยูกับมีนั้นเหมือนแทบจะไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ในช่วงแรก รวมถึงยายด้วย เหมือนเรื่องปล่อยเด็กแฝดใช้ชีวิตกันตามลำพังเกินไปเมื่อเทียบกับช่วงวัยแล้ว แต่นั่นก็ไม่แย่อะไรหรอกนะครับ พอถึงช่วงท้ายๆ ครอบครัวของยูกับมีก็ทำเอาน้ำตาคลอๆ ได้เหมือนกัน ต้องยอมรับว่าการแสดงของน้องใบปอนั้นถ่ายทอดความต่างของแฝดออกมาได้ดีเนียนตาดีนะครับ ทั้งสำเนียงพูด ท่าทาง และ สีหน้า และแม้ว่าบางฉากจะเห็น CG หน้าน้องลอยๆ ออกมาบ้างก็เถอะ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสแต่อย่างใด

สรุปสุดท้ายแล้ว แม้หน้าหนังจะดูเป็นหนังวัยรุ่นแบบวัยมัธยม แถมเป็นหนังแบบผู้หญิงๆ อีกด้วย แต่นั่นคิดว่าด้วยเนื้อเรื่องไม่ได้ขายเรื่องป๊อปปี้เลิฟมากจนเกินไป แต่ยังใส่ความดราม่าความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ๆ ลงไปในตัวละครเด็กๆ พร้อมด้วยการขายบรรยากาศย้อนยุคไป 20 กว่าปีในยุค 90s ปลายหรือ Y2K นั่นก็เพียงพอจะให้กลุ่มคนอายุ 40+ ดูแล้วอินได้สบายๆ เลยล่ะครับ

เนื้อเรื่องย่อเธอกับฉันกับฉัน

ในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ที่ทั่วโลกกำลังพูดถึงปัญหา Y2K และข่าวลือว่าโลกอาจจะแตกในวันสิ้นปี ‘ยู-มี’ (ใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์) ฝาแฝดวัย ม.ต้น ก็เป็นอีกคู่ที่กังวลกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งคู่สนิทและรักกันมาก แชร์ทุกอย่างร่วมกัน จนต่างเป็นเหมือนโลกทั้งใบของกันและกัน 

แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเด็กผู้ชายที่ชื่อ ‘หมาก’ (โทนี่ อันโทนี่ บุยเซอเรท์) ได้เข้ามาในชีวิต 

พวกเธอจึงได้สัมผัสกับ “รักครั้งแรก..ที่ไม่อาจแชร์ให้กันได้” ทั้งคู่จะจัดการกับความสัมพันธ์นี้ และก้าวผ่านช่วงเวลาที่สับสนบนโลกที่เหมือนว่ากำลังจะแตกลงไปได้อย่างไร

ที่มา : gdh559.com

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *