Skip to content

[รีวิว] บัวผันฟันยับ (2022) | หนังที่ทำมาขายให้กับคนที่ชอบ

เวลาที่ใช้อ่าน : < 1 นาที

บัวผันฟันยับ เป็นหนังที่ใช้เวลาในการเปิดดูถึง 3 ครั้งใน NETFLIX สองครั้งแรกไม่น่าเกิน 15 นาทีแล้วปิดไป จนครั้งสุดท้ายก็ลองเปิดดูจนจบ จบแบบ end credit เลยนะ

ลำพังภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้เกิน 100 ล้านนั้น คุณค่าตัวหนังนั้นก็น่านับถือประมาณนึงแล้ว อย่างน้อยๆ ก็มีข้อพิสูจน์และความสำเร็จที่จับต้องได้ 

อย่างเรื่อง “บัวผันฟันยับ” ก็ใช้วิธีดำเนินเรื่องตามหนังสูตรสำเร็จกับตลาดคนไทย แล้วทีนี้มันก็เลยย้อนมาเรื่องรสนิยมซึ่งมันเป็นเรื่องของปัจเจกชนอีกก็ว่าได้

มันก็เลยต้องไปย้อนกลับไปเรื่องสมดุลย์ระหว่างพาณิชย์กับงานศิลป์เข้าไปอีก ตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่าตลาดในไทยมันเป็นอย่างนี้ แม้บ้านเราจะเสรี เปิดกว้าง และสร้างสรรค์ก็ตาม แต่เรื่องภาพยนตร์ไทยก็ต้องยอมรับว่าคนสร้างก็ต้องอยู่รอดให้ได้อีก อย่างที่พชร์ อานนท์เคยบอกไว้ “ผมไม่อยากกลับไปเป็นเด็กขายเรียงเบอร์ เด็กเสริฟ กระเป๋ารถเมล์”

ตัวหนังนั้น ถูกเซ็ตไว้ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ใช้ธีมที่คล้ายกันกับเรื่องที่เปิดทางสไตล์นี้มาก่อนอย่าง “เจ็ดประจันบาน” ที่ผสมผสานความเป็นการ์ตูน (comic) เข้ามาเพื่อความสนุกและเวอร์วัง รวมถึงเซอร์วิสแฟนคลับกับเทรนด์ ผู้หญิงสูงวัย กับ แฟนหนุ่มวัยละอ่อน ซึ่งคิดว่าเป็นความฝันของสาวๆ หลายๆ คนอีกด้วย

นี่นั่งแอบเดาในช่วงถ่ายทำ อารมณ์หน้ากองรายล้อมไปด้วยพร็อพกับคอสตูมสนุกๆ การแสดงหน้าเซ็ตในช่วงนั้นคงสนุกสนานกันแหละ แต่ละซีนแต่ละฉากนักแสดงก็ทำหน้าที่ได้ผ่านมาตรฐานผู้กำกับวางไว้

แต่พอมาช่วง Post Production นี่คิดว่าแย่จน “พังยับ” ไปหน่อยๆ การร้อยเรียงอารมณ์ในหนังนั้นขาดความปะติดปะต่ออย่างมาก ทำให้อารมณ์ในหนังดูแล้วรู้สึกไม่ต่อเนื่อง วิธีการเล่าตัดสลับแบบนี้ก็พบได้ในหนังฮอลลีวูดหรือซีรี่ย์ดังๆ แต่ทว่าอารมณ์มันขาดช่วงอย่างบอกไม่ถูก

หรือเพราะความตั้งใจของผู้กำกับก็ได้ เพราะหนังไทยหลายๆ เรื่องก็ใช้วิธีการลำดับเรื่องกันแบบนี้ เหมือนทำเอาไว้ลงคลิปสั้น ลงติ๊กต่อกไว้แชร์เป็นมีมกันขำๆ เท่านั้น แต่พอเรียงออกมาเป็นเรื่องยาวแล้ว หลายๆ ครั้งถึงมีเสียงคนที่ไม่ชอบจริตตรงนี้ออกมาบ่นๆ เรื่อง “หนังไทย” นี่แหละครับ

นี่ยังรวมมุขตลกที่มันไม่ตลกเกลื่อนอยู่เต็มเรื่อง แต่อย่างที่บอกไปเค้าทำไว้ขายกลุ่มเป้าหมายไว้แล้ว เราที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเค้านั้น คงไม่ได้มาสนใจหรอกครับ และส่วนคิดว่าถ้าทำแบบนี้การเอาไปขายระดับอินเตอร์นั้นคงยากเข้าไปอีก คิดว่าชาติอื่นๆ น่าจะยากเกินเข้าใจได้

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *