Skip to content

[รีวิว] เฉิ่ม : Midnight My Love (2005)

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

ในที่สุดก็ได้ดูภาพยนตร์ไทยเรื่อง “เฉิ่ม” หรืออีกชื่อเรื่อง Midnight My Love ของ คงเดช จาตุรันต์รัศมี ที่เหมาทั้งเขียนบทและกำกับเอง หลังจากเคยเห็นโฆษณานี้ตามท้องถนนในช่วงปีที่หนังออกฉายเมื่อ 17 ปีก่อน ที่ไม่อยากดูในครั้งนั้นเพราะเข้าใจไปเองว่าเป็นหนังตลก และในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยผ่านตาเลยไม่ว่าจะเป็นฟรีทีวี หรือตามช่องของทรูวิชั่นก็ตาม

พอเข้ามาสตรีมมิ่งใน NETFLIX ก็ลองเปิดหนังของคงเดชดูอีกสักที หลังจากผิดหวังอย่างรุนแรงงานล่าสุดของแกในเรื่อง “แอน” (Faces of Anne) นอกจากนั้นหนังเรื่องล่าสุดที่ดูของ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ก็โคตรจะผิดหวังในเรื่อง “Love เลย 101” ที่ใช้โครงเรื่องคล้ายๆ กันในเรื่องของความรักที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ มีประเด็นดีแล้วแท้ๆ แต่ทำออกมาได้แบบผิวเผินเกินไปจนเสียดายเวลาที่ดูไปจริงๆ

แต่พอมาเห็น “หม่ำ” กับ “นุ่น วรนุช” ในเรื่องนี้ปุ๊ป รู้สึกได้เลยว่าทั้งคู่ถ่ายทอดบทบาทของตัวละครออกมาได้อย่างดี เคมีที่ดูแล้วออกมาได้ดีที่ดูแล้วไม่รู้สึก “เคอะเขิน” แต่อย่างใด นับว่าเป็นการพลิกบทบาทของหม่ำที่ทำออกมาได้ดีกับตัวละคร “สมบัติ ดีพร้อม” ในแบบฉบับคนอีสานขับแท็กซี่ที่เราเห็นทรงนี้ได้บ่อยครั้งอยู่แล้ว โดยซ่อนความเป็นตลกซุปเปอร์สตาร์ของวงการไว้อย่างมิดชิด จะมีแค่หลุดแพลมๆ ออกมาให้ได้ขำพอเป็นกระสัย

ส่วนนุ่นในบทบาทหมอนวดสาว “นวล” แม้ในช่วงปีนั้น ตีบทบาทสาวเหนือนางรำและเข้ามาขายตัวในเมืองกรุงได้แตกมาแล้วในละคร “แม่อายสะอื้น” ปี พ.ศ. 2547 แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้แสดงทับรอยเดิมแต่อย่างใด ถ่ายทอดความเป็นหมอนวดในแง่นึงออกมาให้เห็น ที่มีความน่ารักสดใสแต่ซ่อนความขมขื่นไว้ในใจเพียงลำพัง

บทภาพยนตร์และการแสดงของทั้งคู่นี่แหละ ที่ทำให้หนังออกมาได้อย่างน่าติดตามไปจนจบได้ จังหวะการเล่าเรื่องของหนังก็กำลังพอดีๆ ไม่เร่งรีบ ไม่ยืดเยื้อจนน่าเบื่อ แม้จะมีช่วงหลังๆ เหมือนจะรวบรัดไปหน่อย แต่ก็รับได้ไม่ถึงกับแย่แต่อย่างใด เอาเป็นว่าหลายๆ ฉากที่ “นวล” ปิ๊ง “สมบัติ” นั้นแอบทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่อมยิ้มตามได้แน่ๆ รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติของตัวละคร แบบไม่รู้สึกปรุงแต่งจนเกินไป ทำเอาจนลืมไปว่านวลมาปิ๊งคนแบบนี้ได้ยังไงไปเลย แต่อย่างว่าความรักบางครั้งมันก็ไม่มีเงื่อนไขหรอกนะ

ธีมของเรื่องก็แสดงความเหงาของตัวละคร โดยมีพื้นฉากหลังเป็นเมืองกรุงอันที่เริ่มสู่ความทันสมัย ซึ่งมันคอนทราสท์กับความเป็น “สมบัติ” ได้อย่างดี หลายๆ ฉากเป็นความตั้งใจของผู้กำกับเองที่สอดแทรกเข้ามา หลายๆ คน(ในรีวิวอื่นๆ)บ่น แต่กลับกันผมมองว่ามันดีงามมากๆ นะ เพราะมันสะท้อนความหลงใหลในยุคเดิมหรือความเฉิ่มของสมบัติไว้อย่างดี อย่างเรื่องการฟังเพลงสุนทราภรณ์ผ่านวิทยุ AM, ฉากแฟนตาซีช่วงที่สมบัติจิตหลุดเพ้อฝันตัวเองเป็นนักแสดงในหนังไทยยุค ‘60s – ‘70s รวมถึงจุดหักเหที่คาดเดาไม่ค่อยได้ในเรื่องผมว่าทำออกมาได้ดีเลยนะ

สรุปแล้วนับว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นหนังรักโรแมนติกที่เนื้อเรื่องดีมากๆ และถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆ จนเรียกว่าเป็นหนังไทยน้ำดีเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ เราจะได้สัมผัสอารมณ์รักหนังของฝั่งฮ่องกงบ้างในหนังเรื่องนี้ แต่เมื่อมาเป็นฉากหนังกรุงเทพในช่วงปี 2547-48 ความรู้สึกจะพาเราย้อนไปดูอะไรอีกหลายอย่างของกรุงเทพในช่วงปีนั้นหายคิดถึงจนข้ามๆ ความเป็น “เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว” ไปได้ และในความคิดผมก็มองว่ามันก็คือหนังไทยที่คงเดชควรจะรักษาลายเซ็ตอันนี้ไว้ต่ออยู่ดีนะ ส่วนใครที่ชอบหนังรักโรแมนติกแนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้แล้วจะไม่ผิดหวังเลยครับ มันดีมากๆ จริงๆ แนะนำให้เปิด NETFLIX ดูมันเดี๋ยวนี้เลยแล้วจะรู้ว่า

หม่ำจะรักนุ่นจนคุณน้ำตาซึม

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *