Skip to content

[รีวิว] Orange Is the New Black | มนุษยชนนอกกรง ความเสี่ยง และเสียงสะท้อนจาก “เรือนจำ”

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

เมื่อพูดถึง Orange Is the New Black (OITNB) ในวันนี้ — ไม่ได้เป็นแค่ซีรีส์เรือนจำหญิงที่ได้รับคำชื่นชมเมื่อหลายปีก่อน แต่กลายเป็นกระจกที่ยังสะท้อนปัญหา “คุก” ในโลกความจริง โดยเฉพาะในยุคที่ข่าวเกี่ยวกับเรือนจำ (prison) ได้กลับมาถูกพูดถึงอย่างจริงจังในสื่อไทย (เช่นประเด็นการโยกย้ายผู้คุมเรือนจำ, ปมคุก VIP, หรือการเปิดประเด็นโครงสร้างอำนาจในระบบ)

ภาพรวมและจุดเริ่มต้น

OITNB สร้างจากบันทึกความทรงจำของ ไพเพอร์ เคอร์แมน — หญิงชนชั้นกลางที่โดยประวัติพัวพันกับคดีค้ายา แล้วต้องใช้ชีวิตในเรือนจำหญิง ผลงานซีรีส์จบลงหลัง 7 ซีซั่น แต่เรื่องราวภายใน “กรง” นั้นไม่เคยจบลงง่าย ๆ การเล่าเรื่องไม่ได้เป็นแค่ “หญิงสวยติดคุกแล้ววุ่นวาย” เท่านั้น — แต่ OITNB กลายเป็นเวทีให้เห็น “แบ็กกราวด์ชีวิต” ของนักโทษแต่ละคน ผ่านแฟลชแบ็กที่เจ็บปวด อ่อนแอ และซับซ้อนจนเราอดสงสัยไม่ได้ว่าความจริงเบื้องหลัง “อาชญากรรม” บางอย่างคือผลของสภาวะแวดล้อม สังคม และแรงกดดัน มากกว่าแค่การตัดสินผิดทางอาชญา

ธีมทางสังคมและการเมือง

นี่คือจุดเปราะบางแต่ลึกซึ้งที่ทำให้ OITNB เป็นมากกว่าซีรีส์บันเทิง:

  • ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น: ตัวละครอย่างไพเพอร์มาจากชีวิตที่ “ไม่ได้ขาดแคลน” แต่ตกลงมาในระบบอาชญากรรม — เป็นการตั้งคำถามว่า “โอกาส” ที่ไม่เท่ากันนำไปสู่การล่มสลายอย่างไร
  • ความเป็นมนุษย์ในเรือนจำ: แต่ละนักโทษมีเรื่องราวชีวิตที่แตกต่างกัน — บางคนถูกทอดทิ้ง บางคนถูกกดขี่ บางคนต่อสู้เพื่อความรัก ความหวัง หรือความรอด — เรื่องเล่านี้สะท้อนว่าการอยู่ในคุกไม่ได้แปลว่าคนเหล่านั้น “หมดค่า”
  • สิทธิทางเพศและเพศวิถี: ซีรีส์ฉายภาพ LGBTQ+ การเหยียดเชื้อชาติ และอคติทางเพศในระบบเรือนจำ — สิ่งที่ไม่ได้ถูกปิดบัง แต่ถูกนำเสนออย่างตรงไปตรงมา
  • อำนาจและการควบคุม: เรือนจำใน OITNB ไม่ได้เป็นแค่ “ที่ขัง” แต่เป็นระบบอำนาจ — ระหว่างผู้คุมกับผู้ถูกคุม, ระหว่างนักโทษด้วยกันเอง, ระหว่างโครงสร้างสังคมภายนอก — ทุกความสัมพันธ์เต็มไปด้วยความตึงเครียด ที่สะท้อนโครงสร้างอำนาจจริงในโลก

เหตุการณ์สำคัญและฉากที่ตราตรึง

มีหลายฉากที่ฝังใจและทำให้ OITNB เป็น “มากกว่าเรื่องคุก”:

  • แฟลชแบ็กของตัวละครหลัก: เราเห็นอดีตของไพเพอร์ — เธอเป็นใครมาก่อนเข้าเรือนจำ? สิ่งที่เธอสูญเสีย? — ฉากเหล่านี้ทำให้เราเข้าใจ “มนุษย์” เบื้องหลังชื่อ “นักโทษ”
  • ความขัดแย้งภายในเรือนจำ: มีหลายตอนที่ความรุนแรงและการต่อสู้เพื่ออำนาจขึ้นมา — แต่ซีรีส์ไม่ลดทอนมิติความเป็นมนุษย์ของฝ่ายที่ “แข็งกว่าด้วยอำนาจ” หรือฝ่าย “อ่อนแอกว่า”
  • การเปลี่ยนแปลงของตัวละคร: บางตัวละครที่จุดเริ่มต้นดูเหมือนไร้ทางหวัง กลับหาหนทางของตัวเองภายในกรง — บทสรุปของพวกเธอในซีซั่นสุดท้ายเป็นจุดที่หลายคนจดจำ

เชื่อมโยงกับข่าว “เรือนจำในไทย”

เมื่อข่าวเกี่ยวกับเรือนจำในไทย เช่น การโยกย้ายผู้คุม, ประเด็น “คุก VIP” หรือการตรวจสอบโครงสร้างอำนาจในเรือนจำ (ตามแนวการรายงานของสื่อไทยบางแห่ง) กลับมาเป็นประเด็น — OITNB ดูเหมือนจะเป็น “เสียงในจอกระจก”ให้เรามองลึกเข้าไปในปัญหาที่ซุกซ่อน:

  • มันเตือนเราให้ไม่ลืมว่า “ข้างใน” ของคุกมีมนุษย์ — ไม่ใช่แค่ตัวเลขผู้ต้องขัง
  • มันกระตุ้นให้ตั้งคำถามว่า “ใครได้ประโยชน์”จากระบบเรือนจำ — ไม่เพียงแค่ผู้คุม แต่โครงสร้างสังคมภายนอก
  • มันยังย้ำถึงความจำเป็นของการปฏิรูปเรือนจำ — ให้มองมากกว่าแค่การลงโทษ: ให้มี “โอกาสเยียวยา” สร้างชีวิตใหม่หลังกรง

จุดเด่นทางด้านบทละครและการเขียนบท

บทพูดฉลาด: ตัวบทของ OITNB เขียนด้วยความเฉียบคม — มีมุกตลกร้าย แต่แฝงไปด้วยวิจารณญาณ สะท้อนความจริงของชีวิต

ตัวละครหลากหลาย: ไม่ใช่แค่ไพเพอร์ แต่ทุกตัวละคร (นักโทษหญิง, ผู้คุม,คนในเรือนจำ) มีมิติ มีอดีต และมีพัฒนาการ — ทำให้เรา “ผูกพัน” แม้บางคนทำผิดร้ายแรง

จังหวะเล่าเรื่อง: การใช้แฟลชแบ็กเป็นเครื่องมือหลัก เปิดเผยอดีตของตัวละครอย่างช้า ๆ แต่หนักแน่น — และในหลายครั้ง เป็นที่มาของ “ความเข้าใจ” มากกว่าแค่ความตัดสิน

บทสรุปความหมาย

Orange Is the New Black คือมากกว่า “ซีรีส์เรือนจำหญิง” — มันคือบทกวีแห่งความเป็นมนุษย์ งานสะท้อนโครงสร้างอำนาจ และกระแสสังคมในรูปแบบที่คนดูสามารถซึมซับและตั้งคำถามได้ เมื่อเราดูมันในวันนี้ (ในบริบทของข่าวเรือนจำไทย) มันไม่ใช่เรื่องไกลตัว — เพียงแต่ “กรง” ต่างกันเท่านั้น เป็นคุกของฟิคชั่น แต่ประเด็นของชีวิต นักโทษ และการปฏิรูป มีผลจริง และควรค่าแก่การสนทนา

ตัวอย่าง Orange Is The New Black

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Optimized by Optimole