Skip to content

Better Call Saul มีปัญหา ปรึกษาซอล [รีวิว]

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

ถ้าถามว่า Better Call Saul สนุกไหม? ร้อยทั้งร้อยคนที่ชอบซีรี่ย์ Breaking Bad เข้าเส้น ก็ต้องบอกว่าชอบถึงขั้นชอบมากเลยล่ะครับ แต่ถ้าสำหรับคนทั่วๆไปที่ไม่ใช่แฟนซีรี่ย์หรือไม่ชอบสไตล์การเล่าเรื่องที่ค่อนข้างเนิบในบางครั้งนั้น เข้าใจว่าอาจจะรู้สึกไปทางค่อนข้างไม่ชอบ เพราะกว่าจะอินตัวละครหลักนั้น อาจต้องมีความรู้สึกอินมาจาก Breaking Bad เสียก่อน แม้ซีรี่ย์มันจะขึ้นหิ้งยังไงก็ตาม แต่ก็มีคนไม่ชอบอยู่เหมือนกัน ดังนั้นก็เป็นไปได้ที่จะไม่ชอบ Better Call Saul หรือหนังภาคต่ออย่าง El Camino ด้วยแหละครับ

ใน Breaking Bad จะเป็นการเล่าเรื่องของครูสอนเคมีธรรมดาๆ ที่เดินทางไปสู่ผู้ผลิตยาไอซ์ขั้นเทพ การชิงไหวชิงพริบตั้งแต่ระดับเด็กวิ่งยา จนไปถึงแก๊งค์ค้ายารายใหญ่ และ ตำรวจปปส.​ เนื้อเรื่องปูทางค่อยๆ เข้มข้นจนไปพีคในขั้นจบ

ส่วนใน Better Call Saul เป็นเนื้อเรื่องแยกของตัวละครสมทบ​ที่ค่อนข้างเด่นใน Breaking Bad อย่าง ทนายความเจ้าเล่ห์และแพรวพราวอย่าง Saul Goodman, อดีตนาวิกและตำรวจเกษียณราชการฝีมือพระกาฬอย่าง Mike Ehrmantraut, และเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ 2 แก๊งค์ที่ไม่กินเส้นกันแห่งเมืองแอลบูเคอร์คี คือ Gus Fring และ ตระกูล Salamanca

ถ้าชอบตัวละครสมทบข้างบนและชอบสไตล์การเล่าเรื่องและงานภาพแบบ Breaking Bad ก็พร้อมลุยกับ 6 ซีซันใน Better Call Saul ได้เลยล่ะครับ!!! เพราะเรื่องนี้เก็บรายละเอียดที่มาของแต่ละตัวละครก่อนที่เข้าสู่เนื้อเรื่อง Breaking Bad ได้เป็นอย่างดี มี Easter Egg เซอร์วิสแฟนๆ เยอะอยู่เหมือนกัน แถมด้วยเนื้อเรื่องเล็กๆ ของซอล กู๊ดแมน ต่อจาก Breaking Bad ให้ดูอีกต่างหาก

สิ่งนึงที่อาจจะทำให้เบื่อๆ ได้ในช่วงแรกๆ ก็คือเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับการว่าความกฏหมายในศาล ในสำนักงาน เพราะอาศัยบทสนทนากันค่อนข้างมาก อาจทำให้รู้สึกเบื่อกับเนื้อเรื่องได้ เพราะอาจไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องจะพาไปทางไหน แต่หากผ่าน 2 ซีซั่นแรกไปได้ รับรองได้ว่าเข้มข้น จนอาจจะทำให้กลับมาดูซ้ำเอารายละเอียดอีกที แต่อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวชอบเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับทนายมากกว่าเรื่อง SUITS เสียอีก มีความรู้สึกอันนี้มันดูเป็นชีวิตจริงที่ปนตลกร้ายแบบแปลกๆ ดีครับ

ซึ่งซีรี่ย์เรื่องนี้จะพาเราไปรู้จักที่มาตัวตนของทนายจอมกะล่อน การเป็นนักต้มตุ๋นหลอกเอาเงินชาวบ้าน ซึ่งมันผิดวิสัยคนที่จะมาว่าความกฏหมาย และ ความสัมพันธ์กับคนรักอย่าง “คิม เว็กซ์เลอร์” ซึ่งเราจะไม่ได้เห็นเธอใน Breaking Bad อย่างแน่นอน ทำให้เราต้องแอบเอาใจช่วยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง

และอีกสิ่งที่แบกอุ้มความสนุกของซีรี่ย์นี้เป็นพาร์ทของเหล่าอาชญากรทั้งหลาย รวมถึงตัวละครที่เคยถูกเอ่ยถึงจาก ซอล กู๊ดแมน ใน Breaking Bad เมื่อตอนที่โดน เจสซี่ และ วอลท์ ปิดตาลักพาตัวไปกึ่งบังคับให้รับเป็นทนาย เข้าใจผิดว่าแก๊งค์ค้ายามาเอาคืนสักเรื่องนึง เลยหลุดปากไปถึงชื่อ “อิกนาซิโอ้ และ ลาโล” ซึ่งดูใน BB ก็นึกว่าเป็นชื่อแม็กซิกันทั่วๆไป แต่สองชื่อนี้ปรากฏตัวในภายหลังใน Better Call Saul แถมเป็นตัวละครหลักของเรื่องเสียด้วย โดยสองตัวละครนี้จะนำพาไปดูอาณาจักรของซาลามันก้า และ กัส ฟริงส์ ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคไฮเซนเบิร์กเข้ามาแบ่งเค้ก

อิกนาซิโอ้ และ ลาโล

แล้วอีกอันนึงที่ชอบมาก แม้จะเป็นพาร์ทเล็กๆ ในหนังก็คือ ทีมงาน Saul Goodman Productions แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสื่อสารและโฆษณาของซอล กู๊ดแมนได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยมีงบน้อย ซอลจึงว่าจ้างนักเรียนฟิล์มจาก University of New Mexico มา  3 คน ประกอบด้วยตากล้อง, ช่างเสียง และ ช่างแต่งหน้า มาผลิตหนังโฆษณาต้นทุนต่ำแต่ประสบความสำเร็จสูง เหมือนทำส่วนนี้ไว้คาราวะการทำโปรดักชั่นเลยล่ะครับ

จากที่กล่าวไว้ข้างต้น เมื่อดูไปสักพักเราจะเอาใช้ช่วยตัวละครหลายๆ ตัว เพราะเราที่จะไม่ได้พบพวกเขาเหล่านั้นใน Breaking Bad เลยไม่รู้ว่าจะลงเอยกันยังไงในแต่ตัวละคร นี่แหละคือความดีงามของซีรี่ย์ชุดนี้

ที่มาการสร้าง Better Call Saul

ในปี 2009 ระหว่างที่กำลังถ่ายทำ Breaking Bad ตอน “Full Measure” (ซีซั่น 3 ตอนที่ 13) ผู้สร้าง Vince Gilligan กับมือเขียนบทของเรื่องอย่าง Peter Gould ริเริ่มจะสร้างภาคแยกของซีรี่ย์นี้ และเริ่มเล่าไอเดียให้กับนักแสดงเจ้าของบทบาท Saul Goodman อย่าง Bob Odenkirk ฟังซึ่งแน่นอนเค้าสนใจโปรเจ็คนี้เป็นอย่างมากเนื่องจาก Bob บอกว่า Saul Goodman มีตัวละครที่มีคนชื่นชอบตัวนึงอย่างมาก เพราะเสน่ห์และความเจ้าเล่ห์นั่นเอง

เลยคิดจะทำเรื่องที่เล่าที่มาของทนายความของวอลเตอร์ ไวท์ที่มีสำนักงานในห้องแถว ฟังดูเหมือนจะกระจอกแต่ฝีมือนั้นเหนือกว่าทนายความบริษัทใหญ่ๆ เสียอีก 

แต่ Vince เองก็คิดว่าตัวละคร Saul Goodman ก็ไม่สามารถแบกโชว์ได้ทั้งเรื่อง เลยต้องพัฒนาบทบาทตัวละครสมทบและตัวละครใหม่ขึ้นมา แถมด้วยความกลัวเวลาในเนื้อเรื่องจะซ้อนทับกันใน Breaking Bad เค้าเลยให้ทีมงานนั่งดู 62 ตอนกันอีกรอบ เลยไม่แปลกใจเลยที่ Better Call Saul จะเก็บรายละเอียดจาก Breaking Bad ได้ดีถึงดีมากเลยทีเดียว

Bob Odenkirk, Peter Gould และ Vince Gilligan

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *