Skip to content

[รีวิว] 28 Days Later : 28 วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน (2002) | เมื่อสัญชาตญาณเอาชีวิตรอดเหนือทุกความเป็นมนุษย์

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

ในปี 2002 Danny Boyle ผู้กำกับชาวอังกฤษได้ท้าทายสูตรสำเร็จของหนังซอมบี้ ด้วยการพาผู้ชมออกสำรวจความกลัวที่ไม่ได้เกิดจาก “ผีดิบ” แต่เป็น “สิ่งที่ยังเรียกว่ามนุษย์” และความสั่นคลอนของระบบสังคมที่เคยเชื่อมั่น

Cillian Murphy รับบท Jim ชายหนุ่มที่ตื่นขึ้นมาจากโคม่าเพียงเพื่อพบว่าโลกภายนอกได้ล่มสลายไปแล้ว มนุษย์กลายเป็นร่างคลั่งจากเชื้อ Rage Virus ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ราวไฟลามทุ่ง และนี่คือการเดินทางเพื่อเอาชีวิตรอดที่ไม่ใช่เพียงหนีจากความตาย แต่คือการค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ต่อ

ภาพที่ “ไม่คมชัด” แต่คมต่อความรู้สึก

หลายคนอาจสงสัยเหมือนที่ผมเคยสงสัยว่า ทำไมภาพของหนังถึงดูหยาบ ไร้รายละเอียดราวกับวิดีโอสมัครเล่น แต่ความจริงคือ นี่คือความตั้งใจของ Boyle ตั้งแต่ต้น

เขาเลือกใช้กล้อง Canon XL-1 กล้อง Digital Video รุ่นแรกๆ เพื่อสร้างอารมณ์ “ความจริงแบบกล้องวงจรปิด” ให้ผู้ชมรู้สึกติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงบนถนนลอนดอนที่รกร้างอย่างน่าขนลุก มันคือความเรียลที่ทรงพลังจนลืมความคมไปสิ้น

หนังใช้ทุนเพียง 8 ล้านดอลลาร์ แต่ในเชิงงานภาพถือเป็นความกล้าหาญของผู้กำกับที่แหกคอก และตอบแทนด้วยอารมณ์ร่วมที่ “โหด” และ “หม่น” กว่าหนังซอมบี้ใดๆ ในยุคนั้น

โฟกัสที่ จิตใจมนุษย์ มากกว่าเลือดสาด

แม้หนังจะถูกโปรโมตเป็น Zombie-Horror แต่แก่นเรื่องคือ Survival Drama + สังคมวิทยา ว่าเมื่อโลกปราศจากกฎหมายและศีลธรรม มนุษย์จะเผย “ตัวตนแท้จริง” ออกมาอย่างไร

หนังตั้งคำถามสำคัญว่า

ใครกันแน่ที่ควรกลัวมากกว่า?
เชื้อไวรัส… หรือมนุษย์ด้วยกันเอง

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ควรคาดหวังว่า 28 Days Later จะเต็มไปด้วยฉากวิ่งหนีซอมบี้แบบ 28 Weeks Later
เพราะมันเลือกหยุดมองรอบตัว ปะทะกับความว่างเปล่าของสังคม และเปลือยความโดดเดี่ยวของมนุษย์อย่างถึงแก่น

นักแสดงที่ “ยังไม่ดังตอนนั้น” แต่เปล่งประกายด้วยศักยภาพ

Cillian Murphy (Photo by Sundance/WireImage)
  • Cillian Murphy ถ่ายทอดความสับสนและการกลายสภาพจากคนธรรมดาเป็นผู้รอดชีวิตที่แข็งแกร่ง จนทำให้คนดูเชื่อสนิทใจ
  • Naomie Harris ให้มุมมองที่เด็ดขาดและไม่ไว้ใจใครโดยง่าย ซึ่งสอดคล้องกับโลกใหม่ที่โหดร้ายเกินคาดคิด

นี่คือหนังที่ผลักดันทั้งคู่สู่เส้นทางนักแสดงระดับโลก

ผลงานที่เปลี่ยนโฉมหนังซอมบี้ไปตลอดกาล

หาก Night of the Living Dead (1968) คือจุดเริ่มต้นของซอมบี้สมัยใหม่
28 Days Later คือหนังที่ทำให้ซอมบี้ “วิ่งได้” และปลูกเมล็ดพันธุ์ให้กับงานหลังยุค 2000 ไม่ว่าจะเป็น

  • The Walking Dead
  • World War Z
  • รวมถึง 28 Weeks Later เอง

มันคือความแปลกใหม่ที่จุดไฟให้แนวนี้กลับมาระเบิดอีกครั้ง

ผู้เขียนบท : Alex Garland และ ผู้กำกับ Danny Boyle (Photo by J. Vespa/WireImage)

รางวัลสำคัญที่การันตีคุณภาพ

  • Best Breakthrough Performance — Naomie Harris
  • Best Horror Film — Saturn Award
  • Best British Film — Empire Award
  • Best Director — Danny Boyle (หลายเวที)

★ สรุปความเห็น

28 Days Later ไม่ใช่หนังลุ้นเอาตัวรอดแบบซอมบี้ทั่วไป แต่มันคือการจ้องมองเชื้อโรคที่ชื่อว่า “ความสิ้นหวังของมนุษย์” อย่างใกล้ชิด
ถ้าคุณอยากดูซอมบี้ที่เน้นสยองและสปีดเต็ม MAX นี่อาจไม่ตอบโจทย์
แต่หากคุณชอบงานที่ กัดกินความคิด มากกว่าความหวาดผวา นี่คือหนึ่งในหนังแนวนี้ที่ดีที่สุดตลอดกาล

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Optimized by Optimole