Skip to content

[รีวิว] Untamed : ปมใจในป่าลึก (2025) | คดีฆาตกรรมกลางอุทยานแห่งชาติที่สวยเกินจะเชื่อ แต่เนื้อเรื่องไม่อาจตามทัน

  • kengji 
เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

จุดเริ่มต้นที่ชวนให้คาดหวัง

Netflix เปิดตัวซีรีส์ใหม่ชื่อว่า Untamed ในปี 2025 โดยใช้พล็อตที่ชวนให้ตื่นเต้นตั้งแต่ต้น เมื่อร่างของหญิงสาวนิรนามตกจากหน้าผาสูงชันใน Yosemite National Park จุดชนวนให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอย่าง Kyle Turner (แสดงโดย Eric Bana) ต้องกลับมารับภารกิจสืบสวนอีกครั้ง ทั้งที่ยังแบกความเจ็บปวดจากอดีตการสูญเสียลูกชาย และความสัมพันธ์ที่แตกร้าวกับอดีตภรรยา

ปมสืบสวนในป่า กับความลับที่ฝังอยู่ในธรรมชาติ

ตอนแรกของซีรีส์ทำได้ค่อนข้างดีในการดึงความสนใจผู้ชมด้วยบรรยากาศที่ดูเงียบเหงา น่าหวาดระแวง และการแสดงที่หนักแน่นของ Bana ที่ถ่ายทอดความสับสนภายในออกมาได้อย่างสมจริง ความตึงเครียดในคดีนี้ทวีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ Kyle Turner ต้องจับคู่กับเจ้าหน้าที่น้องใหม่ชื่อ Naya Vasquez ผู้มีความมุ่งมั่นแต่ยังขาดประสบการณ์ ทั้งสองร่วมกันเปิดโปงความจริงเบื้องหลังศพหญิงสาวที่แท้จริงชื่อว่า Lucy Cook และการหายตัวไปของเธอไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เชื่อมโยงกับอดีตอันมืดมิดของหลายคนในป่าแห่งนี้

เส้นเรื่องที่คุ้นเกินไปสำหรับคนดูแนวนี้

แม้จะตั้งต้นด้วยพล็อตที่ดูเข้มข้น แต่ Untamed กลับเดินเรื่องไปในแนวทางที่ค่อนข้างซ้ำซากสำหรับคนที่เคยดูซีรีส์แนวสืบสวนมาก่อน ตัวเอกมีอดีตดำมืด ดื่มเหล้า พยายามไถ่บาป ตัวรองก็มีปมรักที่ยังไม่จบ พล็อตย่อยเกี่ยวกับยาเสพติด เหมืองลับ และขบวนการลักลอบ ทุกอย่างดูเหมือนเคยเกิดขึ้นมาแล้วในซีรีส์อื่นๆ หลายเรื่อง และที่สำคัญคือการดำเนินเรื่องบางช่วงดูอืดและคาดเดาได้ง่ายจนน่าเสียดาย

Yosemite ที่งามจับใจ — จนกลายเป็นตัวเอกของเรื่อง

แต่สิ่งหนึ่งที่ Untamed ทำได้อย่างยอดเยี่ยมและกลายเป็นจุดขายของเรื่องคือ “ภาพ” Yosemite ที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสวยงามเกินจริง ราวกับธรรมชาติเป็นอีกตัวละครหนึ่งในเรื่อง ตั้งแต่ฉากป่าทึบที่สว่างเพียงรำไร ไปจนถึงวิวหน้าผาสูงที่ทั้งสวยและน่าหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน หลายคนที่ดูจบยังแอบพูดว่า อยากเก็บกระเป๋าไปเดินป่าทันที ถึงแม้ในความจริงซีรีส์จะถ่ายทำส่วนใหญ่ที่ Vancouver แต่การจัดแสง จัดเฟรม และสไตล์การถ่ายทำช่วยให้ผู้ชม “เชื่อ” ว่านี่คือ Yosemite ตัวจริงได้ไม่ยาก

เฉลยตัวฆาตกร — ความลับที่ไม่ยิ่งใหญ่เท่าที่ควร

เมื่อเรื่องราวเดินทางมาถึงจุดเฉลย ซีรีส์ก็เริ่มหักมุมให้คนดูสะดุ้งได้เล็กน้อย แม้จะไม่ถึงกับเซอร์ไพรส์สุดชีวิต เพราะการวางเบาะแสก็ยังออกจะชัดเกินไปอยู่ดี ในที่สุดเราก็รู้ว่า คนที่ฆ่า Lucy จริงๆ คือ Paul Souter หัวหน้าเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า และเป็นพ่อที่แท้จริงของ Lucy ด้วย เขาไม่ได้ตั้งใจฆ่าเธอตั้งแต่แรก แค่พยายามขู่ให้เธอออกไปจากชีวิต แต่เหตุการณ์กลับบานปลาย กลายเป็นการไล่ล่ากลางป่า จน Lucy เลือกจะกระโดดลงมาจาก El Capitan เองเพื่อหนีความจริงที่ตามหลอกหลอน

ปมชีวิตของ Kyle Turner ที่พาเรื่องกลับมาสู่ครอบครัว

อีกเส้นเรื่องหนึ่งที่พยายามผูกให้ลึกขึ้นคือ ปมการตายของลูกชาย Kyle Turner ที่แรกๆ ดูเหมือนจะเป็นอุบัติเหตุทั่วไป แต่ภายหลังกลับเฉลยว่า ภรรยาเก่าของเขาเป็นคนจ้างวานฆาตกรให้กำจัดคนร้ายที่ฆ่าลูก เพราะไม่เชื่อว่ากฎหมายจะให้ความยุติธรรมได้พอ เรื่องนี้กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ Kyle และ Jill ต้องหย่ากัน และแม้ Kyle จะเข้าใจสิ่งที่ Jill ทำ แต่ก็ไม่อาจยอมรับได้อยู่ดี

ช่องโหว่ในบทที่สะดุดมากกว่าช่วย

แม้ Untamed จะปูเรื่องไว้ดี และมีนักแสดงคุณภาพมาช่วยพยุงเนื้อเรื่องอยู่ตลอด ทั้ง Eric Bana, Sam Neill และ Lily Santiago แต่หลายฉากสำคัญกลับเต็มไปด้วยความบังเอิญแบบ “เกินจะเชื่อ” เช่น ฉากที่ Kyle โผล่มาช่วย Vasquez จากถ้ำใต้ดินได้พอดีเป๊ะ หรือ Vasquez ที่กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญการแกะรอยแบบชนพื้นเมืองอินเดียแดงในเวลาไม่กี่สัปดาห์ และสามารถตามหา Kyle กลางป่าในความมืดได้อย่างไม่มีหลงทาง — สิ่งเหล่านี้พอให้อภัยได้หากคนดูพร้อมจะ “ปล่อยใจ” ไปกับบรรยากาศและความสวยของฉาก แต่สำหรับใครที่ซีเรียสเรื่องความสมเหตุสมผลอาจรู้สึกสะดุดอยู่บ่อยๆ

บทสรุปที่ทั้งขมและเบาเกินไป

ตอนจบของเรื่องทิ้งรสขมไว้เล็กน้อย ไม่ใช่เพราะหักมุมแรง แต่เพราะมันไปไม่สุดในหลายเรื่อง ทั้งคดีหลักที่จบเร็วและง่ายกว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงความสัมพันธ์ของตัวละครที่น่าจะมีน้ำหนักมากกว่านี้โดยเฉพาะคู่ Turner กับ Jill ซึ่งดูเหมือนจะมีเรื่องราวมากมายให้เล่า แต่กลับถูกทิ้งให้หายไปแบบครึ่งๆ กลางๆ

สรุป — ดูเพื่อภาพ ดูเพื่ออารมณ์ ไม่ใช่เพื่อพล็อต

ทั้งหมดนี้ทำให้ Untamed กลายเป็นซีรีส์ที่มีจุดเด่นชัดเจนในเรื่องของบรรยากาศและการถ่ายทำ แต่กลับขาดเสน่ห์ในส่วนของเนื้อเรื่องและบทสนทนา ซึ่งหลายคนถึงกับแซวว่า “ดูเหมือนเขียนโดย AI” เลยทีเดียว เป็นซีรีส์ที่ดูแล้วอาจจะจำภาพธรรมชาติได้มากกว่าจำว่าตกลงใครฆ่าใคร

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณชอบซีรีส์แนวสืบสวนในฉากธรรมชาติที่สงบแต่น่ากลัว ชอบความสัมพันธ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบระหว่างตัวละคร และพร้อมจะปล่อยให้ความงามของป่าเป็นพระเอกแทนเนื้อเรื่องที่ไม่ปังมากนัก — Untamed ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในวันหยุด หรือเวลาที่อยากดูอะไรที่ไม่ต้องคิดมาก แต่พอมีอะไรให้ติดตามจนถึงตอนจบ

ไม่ใช่ซีรีส์ที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่เสียเวลาดูครับ

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Optimized by Optimole