ทุกอย่างเริ่มจากลูกโป่งกับการเดินเล่นในเบอร์ลินตะวันตกที่สมัยนั้นยังแบ่งเยอรมันตะวันตกและออกอยู่ คาร์โล คาร์เกส มือกีตาร์ของวง เห็นลูกโป่งสีแดงลอยขึ้นฟ้าในระหว่างคอนเสิร์ต Rolling Stones แล้วก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าเรดาร์ของกองทัพเข้าใจผิดคิดว่าคือลูกระเบิดล่ะ? ไอเดียนี้เลยกลายมาเป็นเพลง “99 Luftballons”
บทเพลงที่ต่อต้านสงครามที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยซาวด์ป๊อปยุค 80s อันสดใส ถูกปล่อยในปี 1983 ในช่วงที่โลกยังอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามเย็น ก่อนจะกลายเป็นเพลงฮิตทันทีในเยอรมนี และไม่กี่เดือนต่อมาก็ข้ามทะเลไปเขย่าชาร์ตฝั่งอเมริกาด้วยเวอร์ชันภาษาอังกฤษ “99 Red Balloons” ซึ่งถือเป็นเรื่องหายากมากสำหรับเพลงที่มีต้นกำเนิดจากภาษาอื่น
ส่วน Nena ชื่อเต็มคือ Gabriele Susanne Kerner ไม่ใช่มีดีแค่เสียงร้อง แต่เธอคือตัวแทนของยุคสมัย เพลงนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าคุณสามารถเต้นไปพร้อมกับตั้งคำถามต่อโลกได้ในเวลาเดียวกัน
เบื้องหลังทำนองสดใสและเสียงซินธ์ยุค 80 เพลงนี้ คือบทเตือนใจที่กัดเจ็บเกี่ยวกับโลกที่พร้อมระเบิดได้ทุกเมื่อ เล่าเรื่องสมมุติของลูกโป่งที่ถูกปล่อยขึ้นฟ้า แล้วกลายเป็นชนวนให้กองทัพทั่วโลกตอบโต้กันอย่างบ้าคลั่ง ความหวาดระแวง ความเข้าใจผิด และความรุนแรงที่ไม่มีใครตั้งใจ กลายเป็นหายนะครั้งใหญ่โดยไม่มีแม้แต่กระสุนนัดเดียวที่ยิงด้วยความโกรธ นี่ไม่ใช่แค่เพลงต่อต้านสงครามธรรมดา แต่มันหัวเราะเยาะความไร้เหตุผลของการสะสมอาวุธ มันแสดงให้เห็นว่าโลกสามารถล่มสลายได้จากสิ่งเล็กน้อยอย่างลูกโป่ง 99 ลูก
เพลงนี้สรุปความรู้สึกลึกๆ ของคนรุ่นที่เติบโตท่ามกลางภัยสงคราม ความกลัว ความไม่ไว้ใจ และคำถามว่า: เราจะปล่อยให้ความไร้สาระพาเราไปถึงจุดจบอีกนานแค่ไหน?
แปลเพลง 99 Luftballons
Hast du etwas Zeit für mich | ถ้าเธอมีเวลาสักนิดให้ฉัน
Dann singe ich ein Lied für dich | ฉันจะร้องเพลงนี้ให้เธอฟัง
Von neunundneunzig Luftballons | เกี่ยวกับลูกโป่ง 99 ลูก
Auf ihrem Weg zum Horizont | ที่ลอยไปสู่ขอบฟ้าเบื้องไกล
Denkst du vielleicht grad an mich | เธอกำลังคิดถึงฉันอยู่รึเปล่า
Dann singe ich ein Lied für dich | งั้นฟังเพลงนี้ที่ฉันจะร้องให้
Von neunundneunzig Luftballons | เรื่องของลูกโป่ง 99 ลูก
Und, dass so was von so was kommt | และสิ่งเล็กๆ ที่จุดชนวนให้เกิดสิ่งใหญ่โต
Neunundneunzig Luftballons | ลูกโป่ง 99 ลูก
Auf ihrem Weg zum Horizont | ที่ลอยไปยังขอบฟ้า
Hielt man für UFOs aus dem All | ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นจานบินจากนอกโลก
Darum schickte ein General | นายพลเลยสั่งการในทันที
‘Ne Fliegerstaffel hinterher | ส่งฝูงบินไปติดตามทันควัน
Alarm zu geben, wenn’s so wär | เพื่อส่งสัญญาณเตือนหากเป็นภัยจริง
Dabei waren dort am Horizont | ทั้งที่ตรงขอบฟ้านั้น
Nur neunundneunzig Luftballons | มีแค่ลูกโป่ง 99 ลูกลอยอยู่เท่านั้นเอง
Neunundneunzig Düsenflieger | เจ็ตไฟเตอร์ 99 ลำทะยาน
Jeder war ein großer Krieger | นักรบทุกคนต่างพร้อมรบ
Hielten sich für Captain Kirk | คิดว่าตัวเองคือกัปตันเคิร์ก
Es gab ein großes Feuerwerk | แล้วก็ระเบิดกันตูมตามเหมือนพลุไฟ
Die Nachbarn haben nichts gerafft | เพื่อนบ้านไม่เข้าใจอะไรเลย
Und fühlten sich gleich angemacht | แต่กลับรู้สึกว่าโดนรุกราน
Dabei schoss man am Horizont | ทั้งที่พวกเขายิงใส่แค่ขอบฟ้า
Auf neunundneunzig Luftballons | ใส่เพียงลูกโป่ง 99 ลูกที่ลอยอยู่
Neunundneunzig Kriegsminister | รัฐมนตรีสงคราม 99 คน
Streichholz und Benzinkanister | จุดไฟด้วยไม้ขีดในถังน้ำมัน
Hielten sich für schlaue Leute | คิดว่าตัวเองฉลาดล้ำ
Witterten schon fette Beute | ได้กลิ่นผลประโยชน์ลอยมา
Riefen Krieg und wollten Macht | พวกเขาเรียกร้องสงครามเพื่ออำนาจ
Mann, wer hätte das gedacht | ใครจะไปคาดคิดว่าเรื่องจะบานปลาย
Dass es einmal soweit kommt | ว่าวันหนึ่งจะถึงจุดนี้
Wegen neunundneunzig Luftballons | เพราะลูกโป่งแค่ 99 ลูกเท่านั้นเอง
Wegen neunundneunzig Luftballons | เพราะลูกโป่ง 99 ลูกนี้เอง
Neunundneunzig Luftballons | ลูกโป่ง 99 ลูกเท่านั้น
Neunundneunzig Jahre Krieg | สงครามยืดยาวถึง 99 ปี
Ließen keinen Platz für Sieger | ไม่มีใครชนะ ไม่มีพื้นที่ให้ผู้ชนะ
Kriegsminister gibt’s nicht mehr | รัฐมนตรีสงครามก็สูญหายไป
Und auch keine Düsenflieger | เจ็ตไฟเตอร์ก็ไม่มีเหลือ
Heute zieh’ ich meine Runden | วันนี้ฉันเดินวนไปในซากปรักหักพัง
Seh’ die Welt in Trümmern liegen | เห็นโลกนี้ล่มสลายกลายเป็นซาก
Hab ‘n Luftballon gefunden | แล้วเจอลูกโป่งลูกหนึ่งที่ยังเหลือ
Denk’ an dich und lass’ ihn fliegen | ฉันนึกถึงเธอ…แล้วปล่อยมันให้ลอยไป
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่มีผู้ช่วยเขียนเป็น A.I. หากเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ