หลังจากเห็นคลิปล้อเลียนเพลง Bohemian Rhapsody หรือ คลื่นบุญ แร็ปโซดีย์ โดยเอาบทสวดของน้องหญิง ท่านพี่มาตัดใส่แทนเพลง ทำเอาขำน้ำตาไหล ก็เลยมานั่งนึกว่า จริงๆ แล้วไม่เคยสนใจเนื้อหาในเพลงนี้เลยนี่นา ก็เลยมาเขียนบันทึกไว้หน่อย
Bohemian Rhapsody ไม่ใช่แค่เพลงร็อคธรรมดาๆ แต่เป็นการที่วง Queen ทิ้งระเบิดปรมาณูทางดนตรีลงสู่โลกในปี 1975 เกิดจากความฝันแบบโอเปร่าอันเร่าร้อนของ “เฟรดดิ้ เมอร์คิวรี่” บทเพลงมหากาพย์ยาวหกนาทีที่ท้าทายการจัดประเภทนี้ ได้ผสมผสานบัลลาด โอเปร่า และฮาร์ดร็อคเข้าด้วยกัน เป็นผลงานชิ้นเอกที่ทำให้อ้าปากค้าง ทั้งหมดนี้โดยไม่มีท่อนฮุคให้เห็นเลย ซึ่งค่ายเพลงคิดว่ามันบ้า ดีเจวิทยุสะดุ้งกับความยาวของมัน แต่แฟนๆ รู้ดีกว่ามันของดีเว้ย!!! ความสำเร็จมันเลยพุ่งขึ้นอันดับ 1 อยู่เก้าสัปดาห์ และกลับมาอีกครั้งหลังการจากไปของเฟรดดิ้ ช่วยตอกย้ำให้มันเป็นเสมือนมหาวิหารแห่งชาวร็อคที่สลักอยู่บนแผ่นไวนิล ตั้งแต่ทำท่าเล่นกีตาร์จนถึงการโยกหัวแทบหลุดใน Wayne’s World เพลงนี้ไม่ได้แค่ทำลายกฎ แต่มันได้เขียนตำราร็อคขึ้นใหม่เพิ่มเข้าไปเสียด้วยซ้ำ!
ปริศนาแห่งโบฮีเมียนเรปโซดี: การสารภาพบาปของเฟรดดี้
เรามาไขปริศนาที่เรียกว่า Bohemian Rhapsody กัน บทเพลงที่อ่านเหมือนการสารภาพบาปในรูปแบบโอเปร่าที่ส่งตรงจากวิญญาณของเฟรดดี้ ที่แก่นแท้อันร้อนแรงของมันคือการเดินทางเชิงละครเกี่ยวกับความรู้สึกผิด ผลที่ตามมา และความโกลาหลจักรวาล ที่ว่าด้วยชายหนุ่มสารภาพถึงการฆาตกรรม (“แม่ครับ ผมเพิ่งฆ่าคน”) จมดิ่งสู่ความหวาดกลัวเชิงอภิปรัชญา แล้วเผชิญกับการพิพากษาในศาลที่เหนือจริงของเสียงโอเปร่า (ตรงท่อน “กาลิเลโอ!” และ “สการามูช!”) บางคนบอกว่ามันเป็นอุปมาที่เฟรดดี้กำลังดิ้นรนกับอัตลักษณ์และความขัดแย้งภายใน และในขณะที่คนอื่นมองว่าเป็นแค่ดราม่าแบบที่ไร้การกลั่นกรอง เพื่อความดราม่าล้วนๆ ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ไม่มีเรื่องราวที่ตรงไปตรงมา มีแค่พายุอารมณ์ที่ถูกตั้งไว้บนเสียงฟ้าร้องของเปียโนและสายฟ้าของกีตาร์ เหมือนงานศิลปะร็อคแท้ๆ มันไม่มีคำอธิบายตัวเอง… มันเรียกร้องให้ถูกรู้สึกร็อคแค่นั้นเลยจริงๆ
แปลเพลง Bohemian Rhapsody – Queen
Is this the real life? | นี่คือชีวิตจริงหรือเปล่า?
Is this just fantasy? | หรือเป็นแค่ความฝัน?
Caught in a landslide, | ติดอยู่ในดินถล่ม,
No escape from reality | ไม่มีทางหลีกหนีจากความจริง
Open your eyes, | ลืมตาของเธอขึ้นมา
Look up to the skies and see, | มองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วดูสิ
I’m just a poor boy, I need no sympathy, | ฉันเป็นแค่เด็กหนุ่มผู้ยากไร้ ไม่ต้องการความเห็นใจ
Because I’m easy come, easy go, | เพราะว่าฉันมาแบบง่าย ๆ ไปแบบง่าย ๆ
Little high, little low, | บางทีก็สูง บางทีก็ต่ำ
Any way the wind blows doesn’t really matter to me, to me | ลมพัดไปทางไหนก็ไม่สำคัญกับฉันเลย, สำหรับฉัน
Mama, just killed a man, | แม่ครับ ผมเพิ่งฆ่าคน
Put a gun against his head, | เอาปืนจ่อที่หัวเขา
Pulled my trigger, now he’s dead | ลั่นไกไป ตอนนี้เขาตายแล้ว
Mama, life had just begun, | แม่ครับ ชีวิตเพิ่งเริ่มต้น
But now I’ve gone and thrown it all away | แต่ตอนนี้ผมกลับโยนมันทิ้งไปทั้งหมด
Mama, ooh, | แม่ครับ…
Didn’t mean to make you cry | ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้แม่ร้องไห้
If I’m not back again this time tomorrow | ถ้าพรุ่งนี้ตอนนี้ผมไม่ได้กลับมา
Carry on, carry on as if nothing really matters | ก็จงใช้ชีวิตต่อไป ราวกับว่าไม่มีอะไรสำคัญ
Too late, my time has come | สายไปแล้ว เวลาของผมมาถึง
Sends shivers down my spine | ความหนาวแล่นไปตามกระดูกสันหลัง
Body’s aching all the time | ร่างกายปวดร้าวตลอดเวลา
Goodbye, everybody, I’ve got to go | ลาก่อนทุกคน ผมต้องไปแล้ว
Gotta leave you all behind and face the truth | ต้องทิ้งทุกคนไว้ข้างหลังและเผชิญกับความจริง
Mama, ooh (any way the wind blows) | แม่ครับ…ลมจะพัดพาผมไปทางไหนก็แล้วแต่มันเลย
I don’t wanna die | ผมไม่อยากตาย
I sometimes wish I’d never been born at all | บางครั้งผมก็หวังว่าผมไม่เคยเกิดมาเลย
I see a little silhouetto of a man | ผมเห็นเงาเล็ก ๆ ของชายคนหนึ่ง
Scaramouche, Scaramouche, will you do the Fandango? | สการามูช สการามูช เธอจะเต้นฟานแดงโกไหม?
Thunderbolt and lightning, very, very frightening me | ฟ้าผ่าและสายฟ้า น่ากลัวเหลือเกิน
(Galileo) Galileo | (กาลิเลโอ) กาลิเลโอ
(Galileo) Galileo | (กาลิเลโอ) กาลิเลโอ
Galileo Figaro magnifico | กาลิเลโอ ฟิกาโร มหัศจรรย์!
I’m just a poor boy, nobody loves me | ผมเป็นแค่เด็กหนุ่มผู้ยากไร้ ไม่มีใครรักผมหรอก
He’s just a poor boy from a poor family | เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มจากครอบครัวยากจน
Spare him his life from this monstrosity | โปรดช่วยชีวิตเขาจากความโหดร้ายครั้งนี้
Easy come, easy go, will you let me go? | มาแบบง่าย ๆ ไปแบบง่าย ๆ เธอจะปล่อยฉันไปไหม?
Bismillah! No, we will not let you go | บิสมิลลาห์! ไม่ เราจะไม่ปล่อยเธอไป
(Let him go!) | (ปล่อยเขาไปเถอะ!)
Bismillah! We will not let you go | บิสมิลลาห์! เราจะไม่ปล่อยเธอไป
(Let him go!) | (ปล่อยเขาไปเถอะ!)
Bismillah! We will not let you go | บิสมิลลาห์! เราจะไม่ปล่อยเธอไป
(Let me go) | (ปล่อยฉันไป)
Will not let you go | จะไม่ปล่อยเธอไป
(Let me go) | (ปล่อยฉันไป)
Never, never, never, never let me go | ไม่มีทาง ไม่มีวัน ปล่อยฉันไป
Ah | อาาาาา
No, no, no, no, no, no, no | ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่!
Oh mama mia, mama mia | โอ้ มา มา มีอา มา มา มีอา
Mama mia, let me go | มา มา มีอา ปล่อยฉันไป
Beelzebub has a devil put aside for me, for me, for me! | บีลเซบับมีปีศาจไว้รอฉัน สำหรับฉัน!
So you think you can stone me and spit in my eye? | งั้นเธอคิดว่าจะขว้างก้อนหินใส่ฉันและถ่มน้ำลายใส่ตาฉันงั้นเหรอ?
So you think you can love me and leave me to die? | คิดว่าเธอจะรักฉันแล้วทิ้งฉันให้ตายได้งั้นเหรอ?
Oh, baby, can’t do this to me, baby! | โอ้ ที่รัก เธอทำแบบนี้กับฉันไม่ได้หรอก
Just gotta get out, just gotta get right outta here | ฉันต้องหนีไปจากที่นี่ ต้องออกไปให้พ้นเดี๋ยวนี้
(Ooh) | (อู้วว)
(Ooh, yeah, ooh, yeah) | (อู้ว เย่ อู้ว เย่)
Nothing really matters, | ไม่มีอะไรสำคัญจริง ๆ
Anyone can see, | ใคร ๆ ก็เห็นได้
Nothing really matters, | ไม่มีอะไรสำคัญเลย
Nothing really matters to me | ไม่มีอะไรสำคัญกับฉันเลย
Any way the wind blows… | ลมจะพัดไปทางไหนก็แล้วแต่…
อยากจะเขียนอะไรก็เขียนอ่ะครับ แต่มีผู้ช่วยเขียนเป็น A.I. หากเขียนผิดหรือตกหล่นไปก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ