Skip to content

Bohemian Rhapsody : Queen | บทเพลงที่เล่าเรื่องการสารภาพบาป

เวลาที่ใช้อ่าน : 2 นาที

หลังจากเห็นคลิปล้อเลียนเพลง Bohemian Rhapsody หรือ คลื่นบุญ แร็ปโซดีย์ โดยเอาบทสวดของน้องหญิง ท่านพี่มาตัดใส่แทนเพลง ทำเอาขำน้ำตาไหล ก็เลยมานั่งนึกว่า จริงๆ แล้วไม่เคยสนใจเนื้อหาในเพลงนี้เลยนี่นา ก็เลยมาเขียนบันทึกไว้หน่อย

คลื่นบุญ แร็ปโซดีย์ – HistorockTV

Bohemian Rhapsody ไม่ใช่แค่เพลงร็อคธรรมดาๆ แต่เป็นการที่วง Queen ทิ้งระเบิดปรมาณูทางดนตรีลงสู่โลกในปี 1975 เกิดจากความฝันแบบโอเปร่าอันเร่าร้อนของ “เฟรดดิ้ เมอร์คิวรี่” บทเพลงมหากาพย์ยาวหกนาทีที่ท้าทายการจัดประเภทนี้ ได้ผสมผสานบัลลาด โอเปร่า และฮาร์ดร็อคเข้าด้วยกัน เป็นผลงานชิ้นเอกที่ทำให้อ้าปากค้าง ทั้งหมดนี้โดยไม่มีท่อนฮุคให้เห็นเลย ซึ่งค่ายเพลงคิดว่ามันบ้า ดีเจวิทยุสะดุ้งกับความยาวของมัน แต่แฟนๆ รู้ดีกว่ามันของดีเว้ย!!! ความสำเร็จมันเลยพุ่งขึ้นอันดับ 1 อยู่เก้าสัปดาห์ และกลับมาอีกครั้งหลังการจากไปของเฟรดดิ้ ช่วยตอกย้ำให้มันเป็นเสมือนมหาวิหารแห่งชาวร็อคที่สลักอยู่บนแผ่นไวนิล ตั้งแต่ทำท่าเล่นกีตาร์จนถึงการโยกหัวแทบหลุดใน Wayne’s World เพลงนี้ไม่ได้แค่ทำลายกฎ แต่มันได้เขียนตำราร็อคขึ้นใหม่เพิ่มเข้าไปเสียด้วยซ้ำ!

ปริศนาแห่งโบฮีเมียนเรปโซดี: การสารภาพบาปของเฟรดดี้

เรามาไขปริศนาที่เรียกว่า Bohemian Rhapsody กัน บทเพลงที่อ่านเหมือนการสารภาพบาปในรูปแบบโอเปร่าที่ส่งตรงจากวิญญาณของเฟรดดี้ ที่แก่นแท้อันร้อนแรงของมันคือการเดินทางเชิงละครเกี่ยวกับความรู้สึกผิด ผลที่ตามมา และความโกลาหลจักรวาล ที่ว่าด้วยชายหนุ่มสารภาพถึงการฆาตกรรม (“แม่ครับ ผมเพิ่งฆ่าคน”) จมดิ่งสู่ความหวาดกลัวเชิงอภิปรัชญา แล้วเผชิญกับการพิพากษาในศาลที่เหนือจริงของเสียงโอเปร่า (ตรงท่อน “กาลิเลโอ!” และ “สการามูช!”) บางคนบอกว่ามันเป็นอุปมาที่เฟรดดี้กำลังดิ้นรนกับอัตลักษณ์และความขัดแย้งภายใน และในขณะที่คนอื่นมองว่าเป็นแค่ดราม่าแบบที่ไร้การกลั่นกรอง เพื่อความดราม่าล้วนๆ ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ไม่มีเรื่องราวที่ตรงไปตรงมา มีแค่พายุอารมณ์ที่ถูกตั้งไว้บนเสียงฟ้าร้องของเปียโนและสายฟ้าของกีตาร์ เหมือนงานศิลปะร็อคแท้ๆ มันไม่มีคำอธิบายตัวเอง… มันเรียกร้องให้ถูกรู้สึกร็อคแค่นั้นเลยจริงๆ

แปลเพลง Bohemian Rhapsody – Queen

Is this the real life? | นี่คือชีวิตจริงหรือเปล่า?
Is this just fantasy? | หรือเป็นแค่ความฝัน?
Caught in a landslide, | ติดอยู่ในดินถล่ม,
No escape from reality | ไม่มีทางหลีกหนีจากความจริง
Open your eyes, | ลืมตาของเธอขึ้นมา
Look up to the skies and see, | มองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วดูสิ
I’m just a poor boy, I need no sympathy, | ฉันเป็นแค่เด็กหนุ่มผู้ยากไร้ ไม่ต้องการความเห็นใจ
Because I’m easy come, easy go, | เพราะว่าฉันมาแบบง่าย ๆ ไปแบบง่าย ๆ
Little high, little low, | บางทีก็สูง บางทีก็ต่ำ
Any way the wind blows doesn’t really matter to me, to me | ลมพัดไปทางไหนก็ไม่สำคัญกับฉันเลย, สำหรับฉัน

Mama, just killed a man, | แม่ครับ ผมเพิ่งฆ่าคน
Put a gun against his head, | เอาปืนจ่อที่หัวเขา
Pulled my trigger, now he’s dead | ลั่นไกไป ตอนนี้เขาตายแล้ว
Mama, life had just begun, | แม่ครับ ชีวิตเพิ่งเริ่มต้น
But now I’ve gone and thrown it all away | แต่ตอนนี้ผมกลับโยนมันทิ้งไปทั้งหมด
Mama, ooh, | แม่ครับ…
Didn’t mean to make you cry | ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้แม่ร้องไห้
If I’m not back again this time tomorrow | ถ้าพรุ่งนี้ตอนนี้ผมไม่ได้กลับมา
Carry on, carry on as if nothing really matters | ก็จงใช้ชีวิตต่อไป ราวกับว่าไม่มีอะไรสำคัญ

Too late, my time has come | สายไปแล้ว เวลาของผมมาถึง
Sends shivers down my spine | ความหนาวแล่นไปตามกระดูกสันหลัง
Body’s aching all the time | ร่างกายปวดร้าวตลอดเวลา
Goodbye, everybody, I’ve got to go | ลาก่อนทุกคน ผมต้องไปแล้ว
Gotta leave you all behind and face the truth | ต้องทิ้งทุกคนไว้ข้างหลังและเผชิญกับความจริง
Mama, ooh (any way the wind blows) | แม่ครับ…ลมจะพัดพาผมไปทางไหนก็แล้วแต่มันเลย
I don’t wanna die | ผมไม่อยากตาย
I sometimes wish I’d never been born at all | บางครั้งผมก็หวังว่าผมไม่เคยเกิดมาเลย

I see a little silhouetto of a man | ผมเห็นเงาเล็ก ๆ ของชายคนหนึ่ง
Scaramouche, Scaramouche, will you do the Fandango? | สการามูช สการามูช เธอจะเต้นฟานแดงโกไหม?
Thunderbolt and lightning, very, very frightening me | ฟ้าผ่าและสายฟ้า น่ากลัวเหลือเกิน
(Galileo) Galileo | (กาลิเลโอ) กาลิเลโอ
(Galileo) Galileo | (กาลิเลโอ) กาลิเลโอ
Galileo Figaro magnifico | กาลิเลโอ ฟิกาโร มหัศจรรย์!

I’m just a poor boy, nobody loves me | ผมเป็นแค่เด็กหนุ่มผู้ยากไร้ ไม่มีใครรักผมหรอก
He’s just a poor boy from a poor family | เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มจากครอบครัวยากจน
Spare him his life from this monstrosity | โปรดช่วยชีวิตเขาจากความโหดร้ายครั้งนี้
Easy come, easy go, will you let me go? | มาแบบง่าย ๆ ไปแบบง่าย ๆ เธอจะปล่อยฉันไปไหม?
Bismillah! No, we will not let you go | บิสมิลลาห์! ไม่ เราจะไม่ปล่อยเธอไป
(Let him go!) | (ปล่อยเขาไปเถอะ!)
Bismillah! We will not let you go | บิสมิลลาห์! เราจะไม่ปล่อยเธอไป
(Let him go!) | (ปล่อยเขาไปเถอะ!)
Bismillah! We will not let you go | บิสมิลลาห์! เราจะไม่ปล่อยเธอไป
(Let me go) | (ปล่อยฉันไป)
Will not let you go | จะไม่ปล่อยเธอไป
(Let me go) | (ปล่อยฉันไป)
Never, never, never, never let me go | ไม่มีทาง ไม่มีวัน ปล่อยฉันไป
Ah | อาาาาา
No, no, no, no, no, no, no | ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่!
Oh mama mia, mama mia | โอ้ มา มา มีอา มา มา มีอา
Mama mia, let me go | มา มา มีอา ปล่อยฉันไป
Beelzebub has a devil put aside for me, for me, for me! | บีลเซบับมีปีศาจไว้รอฉัน สำหรับฉัน!

So you think you can stone me and spit in my eye? | งั้นเธอคิดว่าจะขว้างก้อนหินใส่ฉันและถ่มน้ำลายใส่ตาฉันงั้นเหรอ?
So you think you can love me and leave me to die? | คิดว่าเธอจะรักฉันแล้วทิ้งฉันให้ตายได้งั้นเหรอ?
Oh, baby, can’t do this to me, baby! | โอ้ ที่รัก เธอทำแบบนี้กับฉันไม่ได้หรอก
Just gotta get out, just gotta get right outta here | ฉันต้องหนีไปจากที่นี่ ต้องออกไปให้พ้นเดี๋ยวนี้

(Ooh) | (อู้วว)
(Ooh, yeah, ooh, yeah) | (อู้ว เย่ อู้ว เย่)

Nothing really matters, | ไม่มีอะไรสำคัญจริง ๆ
Anyone can see, | ใคร ๆ ก็เห็นได้
Nothing really matters, | ไม่มีอะไรสำคัญเลย
Nothing really matters to me | ไม่มีอะไรสำคัญกับฉันเลย

Any way the wind blows… | ลมจะพัดไปทางไหนก็แล้วแต่…

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Optimized by Optimole