Skip to content

Messy : Lola Young | บทเพลงในวันที่ไม่มีใครอนุญาตให้เราเป็นตัวเอง

เวลาที่ใช้อ่าน : 3 นาที

เพลง Messy โดย Lola Young ถือกำเนิดจากช่วงเวลาของความเจ็บปวด อัตลักษณ์ที่สับสน และแรงกดดันจากครอบครัว ในห้องแจมเซสชันที่ลอสแอนเจลิสกับโปรดิวเซอร์ Solomonophonic เธอได้ระบายความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องวิเคราะห์ความเจ็บปวดลึกเกินไป เธอเรียกเพลงนี้ว่า “หนึ่งในผลงานที่จริงใจที่สุด” ที่เคยแต่ง

Messy ถ่ายทอดอารมณ์ของคนที่รู้สึกว่า “มากเกินไป” และ “ไม่พอ” ไปพร้อมกัน ทั้งจากความรักที่ปั่นป่วนและคำพูดที่ขัดแย้งจากพ่อแม่ เสียงซินธ์ในเพลงถูกสร้างขึ้นจากสัญชาตญาณ ขับเน้นความเปราะบางและการต่อต้านความสมบูรณ์แบบในแบบดิบๆ ไม่ผ่านการขัดเกลา เพราะมันตั้งใจให้ จริง ไม่ใช่ เรียบร้อย

แก่นของเพลง “Messy”

ในแก่นแท้ Messy คือการสะท้อนความเจ็บปวดของคนที่พยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปแบบไหน ก็ยังถูกปฏิเสธอยู่ดี Lola เปิดเผยความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยการวิจารณ์ การป้องกันตัว และความโหยหาการยอมรับอย่างสุดหัวใจ เนื้อเพลงสะท้อนความย้อนแย้ง จากการถูกชมว่า “ดีเกินไป” ไปสู่การถูกตำหนิว่า “แย่เกินไป” ภายในเวลาไม่กี่นาที มันพูดถึงแรงปะทะทางอารมณ์ของความรักที่บั่นทอน และแผลจากครอบครัวที่ตามหลอกหลอนเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ในท้ายที่สุด Messy เป็นเสียงตะโกนของคนที่แค่ต้องการ “เป็นตัวของตัวเอง” โดยไม่ต้องขออนุญาตจากใครอีกต่อไป

แปลเพลง Messy – Lola Young

You know I’m impatient | เธอก็รู้ว่าฉันมันคนใจร้อน
So why would you leave me waiting outside the station | แล้วทำไมถึงปล่อยให้ฉันยืนรออยู่หน้าสถานี
When it was like minus four degrees? | ตอนที่อุณหภูมิติดลบสี่องศาแบบนั้น?
And I, I get what you’re sayin’ | ฉันก็เข้าใจนะว่าที่เธอพูดมันหมายความว่าไง
I just really don’t wanna hear it right now | แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น
Can you shut up for like once in your life? | ช่วยเงียบซักครั้งในชีวิตจะได้ไหม?
Listen to me, I took your nice words of advice about | ฟังฉันบ้าง ฉันก็เคยเชื่อคำพูดดี ๆ ที่เธอแนะนำ
How you think I’m gonna die lucky if I turn 33 | ที่ว่า “ถ้าฉันรอดถึงอายุ 33 ได้ก็คงโชคดีแล้ว”
Okay, so yeah, I smoke like a chimney | เออ ฉันสูบบุหรี่เหมือนปล่องไฟก็จริง
I’m not skinny, and I pull a Britney every other week | ฉันไม่ผอม แล้วก็เพี้ยนเหมือนบริทนีย์ทุกสัปดาห์
But cut me some slack, who do you want me to be? | แต่ขอเถอะ อย่าคาดหวังมากนัก เธออยากให้ฉันเป็นใครกันแน่?

‘Cause I’m too messy, and then I’m too fucking clean | เพราะบางทีฉันก็เละเทะ แล้วก็เรียบร้อยเกินไป
You told me, “Get a job,” then you ask where the hell I’ve been | เธอบอกให้ฉันหางานทำ แล้วก็มาถามว่าฉันหายหัวไปไหน
And I’m too perfect, ’til I open my big mouth | ฉันดูดีเกินไป…จนกว่าจะเผลอพูดอะไรออกไป
I want to be me, is that not allowed? | ฉันแค่อยากเป็นตัวเอง มันผิดตรงไหน?
And I’m too clever, and then I’m too fucking dumb | บางทีก็ฉลาดเกินไป แล้วก็งี่เง่าจนเกินทน
You hate it when I cry, unless it’s that time of the month | เธอเกลียดเวลาฉันร้องไห้ เว้นแต่จะเป็นช่วงนั้นของเดือน
And I’m too perfect, ’til I show you that I’m not | ฉันดูเพอร์เฟกต์ไปหมด…จนกว่าจะเผยให้เห็นว่าฉันก็ไม่ใช่
A thousand people I could be for you, and you hate the fucking lot | ฉันเป็นได้ตั้งพันแบบเพื่อเธอ แต่เธอก็เกลียดทั้งหมดนั่นแหละ
You hate the fucking lot | เธอเกลียดมันทั้งหมด
You hate the fucking lot | เธอไม่ชอบสักแบบ
You hate, you hate | เธอเอาแต่เกลียด…เกลียดไปหมด

It’s taking you ages | เธอใช้เวลานานเหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์
You still don’t get the hint, I’m not askin’ for pages | ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ฉันไม่ได้ขอให้เขียนนิยาย
But one text or two would be nice | แค่ส่งข้อความสักบรรทัดสองบรรทัดก็น่าจะพอ
And please, don’t pull those faces | แล้วก็หยุดทำหน้าทำตาแบบนั้น
When I’ve been out working my arse off all day | ฉันทำงานเหนื่อยมาทั้งวันนะ
It’s just one bottle of wine or two | แค่ไวน์ขวดสองขวดเอง
But, hey, you can’t even talk | แต่เดี๋ยว…เธอเองก็พูดไม่ได้นี่
You smoke weed just to help you sleep | เธอยังพึ่งกัญชาเพื่อให้หลับได้
Then why you out gettin’ stoned at four o’clock? | แล้วทำไมตีสี่ยังออกไปมึนอยู่อีกล่ะ?
And then you come home to me | แล้วก็กลับบ้านมาหาฉัน
And don’t say hello, ’cause I got high again | ไม่ทักกันสักคำ เพราะเมากลับมาอีกแล้ว
And forgot to fold my clothes | ลืมพับเสื้อผ้าอีกต่างหาก

‘Cause I’m too messy, and then I’m too fucking clean | เพราะบางทีฉันก็เละเทะ แล้วก็เรียบร้อยเกินไป
You told me, “Get a job,” then you ask where the hell I’ve been | เธอบอกให้ฉันหางานทำ แล้วก็ถามว่าฉันไปไหนมา
And I’m too perfect ’til I open my big mouth | ฉันดูดีไปหมด…จนกว่าจะหลุดพูดอะไรออกมา
I want to be me, is that not allowed? | ฉันอยากเป็นตัวเอง มันผิดตรงไหน?
And I’m too clever, and then I’m too fucking dumb | บางทีก็ฉลาดเกินไป แล้วก็งี่เง่าจนเกินรับ
You hate it when I cry, unless it’s that time of the month | เธอรำคาญที่ฉันร้องไห้ เว้นแต่มันจะถึงเวลานั้นของเดือน
And I’m too perfect, ’til I show you that I’m not | ฉันดูสมบูรณ์แบบ…จนกว่าจะเปิดเผยความไม่สมบูรณ์
A thousand people I could be for you, and you hate the fucking lot | ฉันเป็นได้หลายแบบเพื่อเธอ แต่เธอก็เกลียดทั้งหมด

You hate the fucking lot | เธอเกลียดหมดเลย
You hate the fucking lot | ไม่มีสักแบบที่เธอชอบ
Oh-ooh, and I’m too messy, and then I’m too fucking clean | โอ้…บางทีก็เละเทะ แล้วก็สะอาดเกินเหตุ
You told me, “Get a job,” then you ask where the hell I’ve been | เธอบอกให้หางานทำ แล้วก็ถามว่าฉันไปไหนมา
And I’m too perfect, ’til I open my big mouth | ฉันดูดีจนเกินไป…จนเผลอพูดอะไรออกมา
I want to be me, is that not allowed? | ฉันแค่อยากเป็นฉันเอง มันผิดตรงไหนกัน?
And I’m too clever, and then I’m too fucking dumb | บางทีก็ฉลาดเกินไป แล้วก็โง่จนรับไม่ไหว
You hate it when I cry, unless it’s that time of the month | เธอรำคาญที่ฉันร้องไห้ เว้นแต่มันจะถึงเวลานั้น
And I’m too perfect, ’til I show you that I’m not | ฉันดูเพอร์เฟกต์ไปหมด…จนกว่าจะเผยให้เห็นว่าฉันก็มีข้อเสีย
A thousand people I could be for you, and you hate the fucking lot | ฉันเปลี่ยนได้เป็นพันแบบเพื่อเธอ แต่เธอก็เกลียดทั้งหมด
You hate the fucking lot | เธอเกลียดหมดเลย
You hate the fucking lot | ไม่เคยพอใจเลย
You hate the fucking lot | เกลียดหมด เกลียดไปหมด
You hate the fucking lot | ไม่มีใครที่เป็นได้ในแบบที่เธอรัก

แสดงความคิดเห็น : Kitchen Rai

Your email address will not be published. Required fields are marked *


Optimized by Optimole